วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

กิ้งก่าฟ้าร้อง ที่ภูเวียง ตอนที่ 1

กิ้งก่าฟ้าร้องที่ภูเวียง
                                                                                                       
โดย...เจิด จินตนา
ตอนที่ 1...


                                       ดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางในระบบสุริยจักรวาลแห่งนี้ ซึ่งนอกจากจะมีดาวนพเคราะห์ทั้งเก้าโคจรอยู่โดยรอบลูกไฟดวงมหึมานี้แล้ว ยังมีดาวหางและดาวพระเคราะห์น้อยจำนวนมากมายเป็นส่วนประกอบอีกด้วย
                                       ดาวพระเคราะห์น้อยส่วนใหญ่ โครจรอยู่ในระหว่างดาวพระเสาร์กับดาวพฤหัส ในลักษณะคล้ายเศษหินก้อนใหญ่น้อย กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป บางดวงมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนับสิบๆ กิโลเมตร แต่บางดวงมีขนาดเท่าลูกฟุตบอล หรือเล็กกว่านั้นอีก
                                       ตั้งแต่โลกของเราถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อสี่พันหกร้อยล้านปีก่อน มีดาวพระเคราห์น้อยจำนวนมากมาย กลายเป็นอุกกาบาตตกลงมาสู่โลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นเนืองนิตย์ รวมทั้งการสิ้นสุดของยุคไดโนเสาร์ครองโลกเมื่อหกสิบห้าล้านปีมาแล้ว ก็เป็นผลมาจากมีดาวพระเคราะห์น้อยพุ่งเข้ามาชนโลกเช่นกัน                                        ท่ามกลางหมู่ดาวพระเคราะห์น้อย ยังมีดาวพระเคราะห์ซึ่งมีลักษณะแปลกประหลาดอยู่ดวงหนึ่ง เส้นผ่าศูนย์กลางของมันมีขนาดแค่ห้าเมตร แต่ประกอบขึ้นด้วยมวลสารสีขาวบริสุทธิ์ ที่แข็งแกร่งมาก และดูเหมือนว่า มันจะสามารถเรืองแสงได้อีกด้วย คล้ายกับว่ามีพลังงานอะไรบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ ส่องแสงเป็นประกายสว่างจ้าอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวพระเคราะห์น้อยเหล่านั้น
                          เป็นเวลานับล้านๆ ปี ที่ดาวพระเคราะห์น้อยประหลาดดวงนี้ โคจรไปรอบๆ ดวงอาทิตย์ในห้วงอวกาศอันเวิ้งว้าง ระหว่างกึ่งกลางวิถีโคจรของดาวพระเสาร์กับดาวพฤหัส จวบจนกระทั่งมีดาวหางดวงหนึ่งพุ่งเฉียดเข้ามาใกล้
                                       ด้วยอิทธิพลของดาวหางดวงนั้น ทำให้วิถีโคจรของดาวพระเคราะห์น้อยประหลาดเปลี่ยนแปลงไป มันเริ่มหลุดจากวงโคจรตามปรกติ และค่อยๆ ลอยเคว้งคว้างมุ่งตรงมาสู่โลก ดาวพระเคราะห์ที่มีสีฟ้าสว่างสดใส
                                       ....................
                                       บริเวณที่ราบลุ่มแห่งนี้ มีทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ซึ่งเกิดจากแม่น้ำลำธารหลายสายไหลมารวมกัน ล้มรอบไปด้วยหุบเขาอันสลับซับซ้อน และมีพืชพรรณพันธุ์ไม้ชึ้นอยู่มากมายแลดูเขียวชะอุ่ม
                                       น้ำในทะเลสาบนั้นใสดุจกระจก แลเห็นฝูงปลาใหญ่น้อยแหวกว่ายอยู่ไปมา และแถวริมฝั่งยังเต็มไปด้วยพืชน้ำขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น อันเป็นอาหารอันโอชะของฝูงคาเมราซอรัส ไดโนเสาร์พันธุ์กินพืชซื่อมีรูปร่างใหญ่โตมโหฬาร ลำตัวอ้วนพีและคอยาว
                                       ด้วยมีลำคออันเรียวยาวคล้ายยีราฟนี่เอง จึงอำนวยความสะดวกในการที่มันจะก้มหัวมุดลงไปในน้ำ และเล็มพืชน้ำคล้ายสาหร่ายขึ้นมาบดเคี้ยวกินอย่างเพลิดเพลินสราญใจ เพราะมีลำตัวยาวถึง 15 เมตร และน้ำหนักตัวอันมหาศาล จึงทำให้มันต้องง่วนอยู่กับการกินตลอดทั้งวัน
                                       คาเมราซอรัสกลุ่มนี้ อาศัยหากินอยู่ริมทะเลสาบเป็นฝูงใหญ่ มีบางครั้งที่พวกมันจะขึ้นมาบนบก เพื่อหาพืชพันธุ์ธัญญาหารกิน เมื่ออาหารที่มีอยู่ใต้น้ำร่อยหรอลง แต่ส่วนใหญ่แล้วมันชอบที่จะขลุกอยู่ในน้ำมากกว่า เพื่อความปลอดภัยของชีวิตมันเอง ศัตรูตัวฉกรรจ์ของคาเมราซอรัสคือ เจ้าไทรันโนซอรัส ไดโนเสาร์พันธุ์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ของยุคครีเตเซียสนี้
                                       เจ้านักล่าจอมโหดแห่งยุคดึกดำบรรพ์ มีลำตัวยาวถึงสิบสองเมตร เดินด้วยสองเท้าหลังและมีกรามอันใหญ่โตแข็งแรง เรียงรายด้วยฟันยาวแหลมคมเต็มปาก สามารถฉีกเนื้อของเหยื่อเป็นชิ้นๆ ด้วยการงับเพียงครั้งเดียว จึงเป็นที่น่าเกรงขามของพวกไดโนเสาร์คอยาว รวมทั้งไดโนเสาร์พันธุ์อื่นๆ
                                       เพราะความอุดมสมบูรณ์ของที่ราบลุ่มริมทะเลสาบแห่งนี้ จึงมีสัตว์ต่างๆ อาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ต่างก็ดำเนินชีวิตอยู่ หากินกันไปตามวิถีทางของพวกมัน
                                       ในพงหญ้าสูงใกล้กับพุ่มไม้ เจ้าโอวิแรพเตอร์ ไดโนเสาร์ขนาดเล็กยาวเพียงสองเมตร รูปร่างเพรียวดูปราดเปรียว กำลังขโมยไข่ซื่อแม่ไดโนเสาร์เผลอทิ้งเอาไว้ ยืนแทะเปลือกดูดกินอย่างน่าเอร็ดอร่อย ขณะที่สตรูทิโอมิมุสไดโนเสาร์รูปร่างคล้ายนกกระจอกเทศกลุ่มหนึ่ง เดินคุ้ยเขี่ยจิกแมลงกินอยู่ใกลๆ กัน โดยไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับมันเลยแม้แต่น้อย
                                       ใต้กอเฟิร์นใบใหญ่เท่าทางมะพร้าวชายน้ำริมทะเลสาบ จระเข้ขนาดมหึมาลอยตัวนิ่งอยู่ปริ่มๆ ผิวน้ำ รอเวลาให้เหยื่อของมันซึ่งเป็นปลาหรือไดโนเสาร์ขนาดเล็กพลัดหลงเข้ามาเพื่อจับกินเป็นอาหาร ลำตัวของมันกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม จนดูคล้ายกับขอนไม้ที่ลอยนิ่งอยู่ในน้ำ
                                       ห่างไกลออกไปทางทิศเหนือ บริเวณที่ลำธารสายหนึ่งไหลลงมาบรรจบกับทะเลสาบแห่งนี้ สไปโนซอรัสสามตัว กำลังยืนสงบนิ่งอยู่ริมลำธารด้วยความอดทนในการล่าเหยื่อ เฉกเช่นเดียวกันกับเจ้าจระเข้ดึกดำบรรพ์
                                       ส่วนหลังของมันมีแผงซึ่งยึดติดกันด้วยแผ่นหนังบางๆ คล้ายครีบหลังของปลา อันเป็นลักษณะพิเศษของไดโนเสาร์กินปลาชนิดนี้ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากกระจัดกระจายกันไปรอบๆ ทะเลสาบ
                                       เมื่อมีปลาว่ายทวนกระแสน้ำเข้ามาใกล้พอที่มันจะจับได้ มันจะใช้ปากอันเรียวยาวฉกลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว งับปลาเคราะห์ร้ายขึ้นมากินเป็นอาหาร แม้จะมีรูปร่างที่ใหญ่โต แต่พวกมันก็ปราดเปรียวว่องไวไม่ใช่น้อย
                                       สัตว์ใหญ่ที่สุดของหุบเขาแห่งนี้คือ ฝูงคาเมราซอรัส ไดโนเสาร์คอยาว ที่กำลังหากินอยู่ริมทะเลสาบนี่แหละ
                                       คาเมราซอรัสหนุ่มตัวหนึ่ง เกิดรู้สึกเบื่อพืชน้ำที่มันกินมาเกือบตลอดทั้งวัน หันมองไปบนฝั่งเห็นมีพุ่มไม้หนายอดอ่อนๆ พุ่มใหญ่อยู่ไม่ไกล เห็นแล้วช่างยั่วตายั่วใจมันยิ่งนัก
                                       มันยืดคออันเรียวยาว ยกศีรษะสูงขึ้นไปในอากาศ กวาดสายตาเหลียวมองไปรอบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จนแน่ใจว่าปลอดภัยจากศัตรูแล้ว จึงได้ก้าวขึ้นมาจากทะเลสาบ เดินอุ้ยอ้ายตรงไปยังพุ่มไม้ที่หมายตาเอาไว้นั้น จัดการแทะเล็มใบไม้ที่เป็นยอดอ่อนๆ กินอย่างเอร็ดอร่อย
                                       คาเมราซอรัสอีกสองตัวเมื่อเห็นเช่นนั้น รีบพากันขึ้นจากน้ำเดินเข้ามาขอร่วมวงด้วย หลังจากที่ยืนดูอยู่จนแน่ใจว่าไม่มีอันตรายอะไรแล้ว
                                       รสชาติของใบไม้อ่อนนั้นช่างอร่อยลิ้น พาให้พวกมันกินกันเพลิน ไม่ได้นึกเฉลียวใจเลยสักนิดว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว
                                       ไม่ไกลจากพุ่มไม้เท่าไรนัก ไทรันโนซอรัสตัวหนึ่งกำลังเดินท่อมๆ หาเหยื่ออยู่ ด้วยอาการที่หิวโซ พอก้าวออกจากเหลือบเขาแลเห็นคาเมราซอรัสทั้งสามตัวเข้า ก็เขม้นมองอย่างพึงพอใจ
                                       คาเมราซอรัสเป็นอาหารที่มันโปรดปรานมากอยู่แล้ว ขอให้จับได้แค่ตัวเดียวมันจะสามารถอิ่มท้องไปได้ตั้งหลายวัน
                                       ฮ่ามมม!
                                       เจ้านักล่าฟันแหลมอ้าปากร้องคำรามเสียงดังก้องเป็นการข่มขวัญ ก่อนที่จะก้าวขาออกวิ่งตรงเข้าหาเหยื่ออย่างรวดเร็ว
                                       เสียงคำรามของเจ้ากิ้งก่ายักษ์ ทำให้สัตว์ทั้งหลายในบริเวณนั้นต่างแตกตื่นวิ่งหนีกันขวัญกระเจิง รวมทั้งคาเมราซอรัสที่กำลังเล็มใบไม้อ่อนกินทั้งสามตัวนั้นด้วย
                                       พอเหลียวมามองเห็นเจ้าไทรันโนซอรัส ไดโนเสาร์คอยาวทั้งสามตัวต้องรีบผละจากพุ่มไม้ วิ่งตรงไปที่ทะเลสาบด้วยอาการหวาดกลัวสุดขีด ขณะที่คาเมราซอรัสตัวอื่นๆ ในทะเลสาบ ต่างพากันชูคอหันมามอง ด้วยความตืนตะลึงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
                                       ฮ้ามมม!
                                       ด้วยช่วงก้าวที่ยาวกว่า เพราะเป็นสัตว์สองเท้าที่มีช่วงขายาวและแข็งแรง ชั่วไม่ถึงอึดใจ เจ้านักล่าจอมโหดจึงไล่กวดทันคาเมราซอรัสหนุ่ม ซึ่งวิ่งล้าหลังกว่าตัวอื่นเพื่อน
                                       โดยไม่รีรอชักช้า มันอ้าปากอันกว้างใหญ่ หมายงับต้นคอของเหยื่อให้จมเขี้ยว เพื่อหยุดยั้งการหลบหนี แต่เจ้าไดโนเสาร์คอยาวมันรู้ทัน รีบเอี้ยวตัวหลบ รอดพ้นจากคมเขี้ยวของศัตรูไปได้อย่างหวุดหวิด
                                       เมื่อเห็นว่าจวนตัวหนีไม่ทันแน่แล้ว คาเมราซอรัสหนุ่มจึงต้องหันหน้าเข้าหาศัตรู ตั้งท่าเตรียมตัวต่อสู้เพื่อป้องกันตนเอง
                                       โฮ้มมมม!
                                       ฮ่ามมมม!
                                       ต่างขู่คำรามเข้าใส่กัน และจ้องตาของอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นการคุมเชิง ถึงแม้ว่าคาเมราซอรัสจะดูอุ้ยอ้าย แต่มันก็มีหางที่ยาวใหญ่และทรงพลัง เป็นที่เกรงขามของไทรันโนซอรัสนักล่าเช่นกัน
                                       ดูเชิงกันอยู่เพียงครู่เดียว ไทรันโนซอรัสจึงเป็นฝ่ายเริ่มลงมือโจมตีก่อน มันสืบเท้าเข้าหาเหยื่อ พร้อมกับอ้าปากงับด้วยความรวดเร็วปานงูฉก  คาเมราซอรัสหนุ่มซึ่งคอยระวังตัวอยู่แล้ว รีบหดคอกลับถอยฉากออกมาหนึ่งก้าว
                                       ขณะที่เจ้าฟันแหลมมันงับพลาด คาเมราซอรัสรีบสะบัดลำคออันยืดยาวคล้ายงวงช้าง ฟาดเข้าที่โหนกแก้มของคู่ต่อสู้อย่างจัง ส่งผลให้เจ้านักล่าจอมโหดเซถลาไปสองสามก้าวเพราะเสียหลัก ยับยั้งการโจมตีไปได้ชั่วขณะ
                                       พอตั้งหลักได้ เจ้าไทรันโนซอรัสจึงบุกเข้าโจมตีอีกครั้ง อ้าปากไล่งับเหยื่อของมันเป็นพัลวัน คาเมราซอรัสหนุ่มใช้วิธีถอยฉากหลีกเลี่ยงฟันอันแหลมคมของมัน จากนั้นรีบหันหลังให้คู่ต่อสู้ แล้วตวัดหางฟาดเข้าที่ซอกคอของไทรันโนซอรัสอย่างจัง
                                       ผลัวะ!
                                       มันหนักหน่วงคล้ายนักมวยที่ถูกคู่ต่อสู้เตะก้านคอด้วยท่าจระเข้ฟาดหาง เจ้านักล่าฟันแหลมถึงกับผวาล้มหน้าคว่ำลงฟาดกับพื้น ด้วยอาการงุนงงเป็นไก่ตาแตก
                                       โอกาสหนีเป็นของคาเมราซอรัสหนุ่มแล้ว มันรีบผละวิ่งลงไปที่ทะเลสาบทันที ก่อนที่คู่ต่อสู้จะทันลุกขึ้นมาตั้งตัวได้ กว่าเจ้าไทรันโนซอรัสมันจะพลิกตัวลุกขึ้นมา มันก็ลงไปลอยคออยู่ในน้ำเสียแล้ว
                                       เจ้าฟันแหลมมันได้แต่ยืนขู่ร้องคำรามอย่างฉุนเฉียวอยู่ที่ริมตลิ่ง ขณะที่ฝูงคาเมราซอรัสพากันหนีถอยห่างจากฝั่งออกไป สุดปัญญาที่เจ้านักล่าจอมโหดจะสามารถทำอะไรได้
                                       เมื่อพลาดหวังจากเหยื่อที่หมายตาเอาไว้ กิ้งก่ายักษ์จอมอันธพาลจึงจำใจต้องผละออกจากทะเลสาบ เดินงุ่นง่านไปด้วยความหัวเสีย ที่ดันมาพลาดท่าปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปได้
                                       แต่พอเดินมาได้สักครู่หนึ่ง มันก็เจอเหยื่อรายใหม่ เป็นฝูงสตรูทิโอมิมุส ไดโนเสาร์รูปร่างคล้ายนกกระจอกเทศซึ่งกำลังหากินอยู่ในทุ่งหญ้า
                                       ทว่า สตรูทิโอมิมุสนั้นเป็นไดโนเสาร์นักวิ่งเท้าไฟ และมีสัญชาติญาณในการระแวดระวังภัยอย่างดีเยี่ยม แค่เหลือบเห็นไทรันโนซอรัสปรากฎตัวขึ้นเท่านั้น พวกมันต่างพากันออกวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว การไล่ล่าจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
                                       เมื่อไม่ได้คาเมราซอรัส ขอจับสตรูทิโอมิมุสให้ได้สักตัวเถอะน่า เจ้านักล่าฟันแหลมมันรีบวิ่งไล่กวดตามไปอย่างไม่รีรอชักช้า
                                       ด้วยช่วงก้าวที่ยาวกว่าสตรูทิโอมิมุสซึ่งมีขนาดลำตัวยาวแค่สี่เมตร ไม่นานนักไทรันโนซอรัสก็ไล่ตามเหยื่อฝูงนั้นกระชั้นชิดเข้าไปทุกที คิดว่าไม่ช้าจะต้องจับพวกมันได้สักตัวหนึ่ง
                                       แต่แล้ว ความหวังของเจ้านักล่าจอมโหดพลันดับวูบลงไปอีกครั้ง ขณะที่ฝูงสตรูทิโอมิมุสวิ่งหนีไปทางภูเขา มีไทรเซอราทอปตัวหนึ่ง กำลังยืนแทะรากไม้กินอยู่แถวนั้นพอดี
                                       เจ้ายักษ์ใหญ่สามเขาสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อฝูงสตรูทิโอมิมุสวิ่งผ่านตัวมันไปอย่างตื่นตระหนก เหลียวหน้าไปมองดูและเห็นว่าเป็นไทรันโนซอรัสนั่นเองที่วิ่งไล่กวดพวกมันมา จึงรีบตั้งท่าเตรียมป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยความไม่ประมาท
                                       จอมเพชฌฆาตแห่งยุคดึกดำบรรพ์ชะงักพรืดเมื่อเห็นไทรเซอราทอปยืนขวางทางอยู่ ตามปรกติแล้วมันไม่ค่อยอยากจะตอแยด้วยสักเท่าไรนัก เพราะนอกจากไทรเซอราทอปจะมีแผงกระดูกที่คอชูตั้ง ยากที่จะมีจุดอ่อนให้โจมตีได้ง่ายๆ แล้ว มันยังมีเขาอันยาวโง้งคู่หนึ่ง ติดกับแผงกระดูกคอนั้น เป็นอาวุธที่น่ากลัวอีกด้วย
                                       สัตว์ยักษ์ทั้งคู่ต่างยืนเผชิญหน้าคุมเชิงกันอยู่ จึงเปิดโอกาสให้สตรูทิโอมิมุสฝูงนั้น หนีรอดการเป็นเหยื่อของไทรันโนซอรัสไปได้อย่างเฉียดฉิว
                                       เจ้านักล่าฟันแหลมมันกำลังโมโหหิวจนหน้ามืดตาลาย เมื่อเห็นเจ้าไทรเซอราทอปมายืนขวางไม่ยอมหลีกทางให้ชักเดือดจัด มันขู่คำรามในลำคอพร้อมกับก้าวย่างสามขุมข้าไปหา จ้องหาอาสที่จะจัดการกับศัตรูด้วยความเคืองแค้น
                                       ยักษ์สามเขาก้าวถอยหลังช้าๆ หมุนวนไปรอบๆ หันเขาแหลมทั้งคู่เข้าใส่ศัตรูตลอดเวลาอย่างไม่ประมาท ทำให้เจ้าไทรันโนซอรัสต้องคอยระวังเขาคู่นั้นแจ ไม่กล้าผลีผลามบุกเข้าโจมตี
                                       ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันอยู่ครู่หนึ่ง ไทรันโนซอรัสจึงเริ่มเป็นฝ่ายบุกก่อน มันเอี้ยวตัวหลบเขาของศัตรู แล้วพุ่งเข้าโจมตีตรงซอกคอหลังแผงกระดูกซึ่งเป็นจุดอ่อน ซึ่งเจ้ายักษ์สามเขามันก็รู้ทัน ก้าวถอยฉากออกมา เอาแผงกระดูกคอรับไว้ เจ้าฟันแหลมจึงงับพลาด โดนเอาแผงกระดูกคอนั้นเข้าอย่างจัง
                                       ไทรเซอราทอปถึงแม้จะตัวเตี้ยกว่า เพราะเป็นไดโนเสาร์กินพืชและเดินสี่ขา แต่มีเรี่ยวแรงอันมหาศาล แค่มันโยกศีรษะสะบัดทีเดียว ก็งัดเอาเจ้านักล่าจอมโหดเสียหลัก ซวนเซถลาไป มันรีบพุ่งตามติด หมายแทงเสียบคู่ต่อสู้ด้วยเขาอันยาวโง้ง
                                       แต่เจ้าไทรันโนซอรัสมันไวทายาท ถอยหลบนิดหนึ่งก่อนจะโดนเขาเสียบ แล้ววนไปรอบๆ เพื่อหาโอกาศโจมตีส่วนหลังของศัตรู ซึ่งยักษ์สามเขาก็รู้ทันและหันตามไปตลอด ไม่ยอมให้คู่ต่อสู้เล่นงานจุดอ่อนได้
                                       เป็นเพราะความใจร้อนอยากรีบเผด็จศึก เจ้าฟันแหลมมันตัดสินใจกระโดดเข้าใส่ เหยียบหัวคู่ต่อสู้เอาไว้ แล้วงับลงที่กลางสันหลังอย่างรวดเร็ว
                                       ไทเซอราทอปส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อฟันอันแหลมคมของอีกฝ่าย เจาะลึกผ่านผิวหนังที่หยาบหนาเข้าไปจนถึงกระดูกสันหลัง
                                       พยายามจะสะบัดอย่างไรคู่ต่อสู้ยังกัดแน่นไม่ยอมปล่อย จะแทงด้วยเขาทั้งสองข้างก็ไม่ถนัด เพราะศัตรูเล่นโจมตีแบบประชิดตัวอยู่
                                       แต่ไทรเซอราทอปนั้น ยังมีเขาเล็กๆ อีกอันหนึ่ง ติดอยู่ที่ปลายจมูกคล้ายนอของแรด เมื่อไม่สามารถใช้เขาทั้งสองข้างได้ มันจึงเปลี่ยนมาใช้เขาอันนี้ต่อสู้กับศัตรูแทน รีบงัดเขาตรงปลายจมูกเสยเข้าที่ใต้ท้องน้อยในระหว่างต้นขาทั้งสองข้างของคู่ต่อสู้ แล้วสะบัดอย่างแรง ส่งร่างของเจ้าไทรันโนซอรัสลอยละลิ่วลงไปนอนฟาดพื้น ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
                                       ฮ่ามมมมมม!
                                       ทว่า ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บปวดอย่างไรมันจะมัวนอนอยู่กับพื้นไม่ได้ เพราะยักษ์สามเขากำลังพุ่งรี่เข้ามาใส่ ไทรันโรซอรัสรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเพื่อจะถอยหนี แต่ไม่ทันเสียแล้ว ยังไม่ทันจะขยับถอยหนี เขาข้างหนึ่งของไทรเซอราทอปก็พุ่งเสียบเข้าไปที่ท้องน้อยของมัน จนจมมิดเข้าไปเกือบครึ่งเขา
                                       ฮ๊ามมมมมมม!
                                       มันร้องเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด เมื่อพลาดท่าเสียทีคู่ต่อสู้ มือทั้งสองข้างนั้นสั้นและเล็กนิดเดียว ไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรตัวเองได้ ต้องพยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่ เพื่อให้หลุดพ้นจากเขาของศัตรู
                                       แต่เจ้ายกษ์สามเขากลับเดินหน้าดันเขาให้จมมิดเข้าไปอีก เพิ่มความเจ็บปวดทรมาณให้คู่ต่อสู้มากยิ่งขึ้น
                                       เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเอาตัวรอดได้แล้ว ไทรันโนซอรัสจึงโน้มคอลงมากัดดะไม่เลือกที่ ตามแผ่นหลังของคู่ต่อสู้ สร้างความเจ็บปวดให้ได้ไม่ใช่น้อยเช่นเดียวกัน
                                       ไทรเซอราทอปต้องสะบัดตัวอย่างแรง เพื่อให้หลุดพ้นจากการโจมตีของเจ้าฟันแหลม จนเขาข้างนั้นหักสะบั้นจากแผงกระดูกคอ ติดท้องของศัตรูไป
                                       ไทรันโนซอรัสยืนโงนเงนอยู่สักครู่หนึ่งแล้วล้มหงายท้องตึงลงไปนอนดิ้นกระแด่ว เจ้ายักษ์สามเขาซึ่งสูญเสียเขาไปข้างหนึ่ง รีบถอยห่างออกมายืนดูอยู่ไกลๆ ขณะที่ศตรูของมันเริ่มอ่อนแรงหยุดดิ้นรน นอนหายใจรวยรินใกล้สิ้นใจ เพราะบาดแผลฉกรรจ์จากเขาซึ่งหักคาอยู่ที่ท้องนั้น
                                       ฟ้าววววววววว!
                                       เสียงหวีดหวิวที่ดังแหวกอากาศมา ทำให้ไทรเซอราทอปต้องแหงนหน้าขึ้นมองดูบนท้องฟ้า และเห็นดาวพระเคราะห์น้อยประหลาดมีแสงเรือง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นลูกอุกกาบาตพุ่งเข้ามาสู่บรรยากาศของโลก และเสียดสีกับอากาศจนกลายเป็นลูกไฟดวงใหญ่
                                       เพียงแค่ไม่กี่วินาที มันก็พุ่งตกลงไปในน้ำ และกระแทกกับพื้นที่ก้นทะเลสาบ บังเกิดเสียงระเบิดอย่างกึกก้องกัมปนาท
                                       บรึ้มมมม!
                                       แรงปะทะทำให้น้ำในทะเลสาบพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กระจายเป็นรัศมีวงกว้าง อำนาจของมันเทียบเท่ากับดินระเบิดนับร้อยๆ ตัน ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวสะเทือนเลือนลั่น เศษดินโคลนใต้ท้องทะเลสาบ โดนแรงกระแทกจนกระจายออก และสาดเข้าหาฝั่งประดุจคลื่นยักษ์สึนามิ
                                       ขณะที่เจ้าไทรเซอราทอปกำลังยืนแหงนคอมองดูอย่างตื่นตะลึง ดินโคลนซึ่งปะปนมากับน้ำจำนวนมหาศาลก็ถาโถมเข้ามากลบร่างของมันอย่างรวดเร็ว หมดหนทางที่มันจะหลีกเลี่ยงหนีไปทางไหนได้
                                       เมื่อพื้นดินหยุดสั่นสะเทือน ทุกอย่างสงบนิ่งลง ทั่วทั้งหุบเขานั้นพลันกลายเป็นทะเลโคลนอันกว้างใหญ่ ไม่ได้เหลือร่องรอยความเขียวขจีของพรรณไม้ให้เห็นอยู่อีกต่อไป



















                                     

                                   
                                   
                                   
                                     
                                   



                                   
                                   
                                   

                                    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น