วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560


43...

ทั้งหมอฉุยและเจ้าอ้นตั้งท่าจะบุกเข้ามาเล่นงานปื๊ดกับตุ่ม  ตามคำสั่งของอาจารย์บุญ  ต้นเห็นเช่นนั้น รีบกระชากดุ้นฟืนออกมาจากกองไฟ  พุ่งเข้ากวัดแกว่งสกัดขวางเอาไว้
อย่านะถอยออกไปถอยออกไป !
เพราะดุ้นฟืนที่กำลังติดไฟลุกโซนของชายหนุ่ม  ทำให้หมอฉุยกับเจ้าเด็กหนุ่มหน้าผีรู้สึกแขยงไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้
ช่วยกันดับไฟก่อน….เร็วเข้า !”  ต้นหันไปเตือนสติปื๊ดกับตุ่ม   ทั้งคู่จึงรีบใช้  กิ่งไม้ช่วยกันดับไฟ  โดยมีชายหนุ่มถือดุ้นฟื้นคอยกันท่า ไม่ให้มีใครเข้ามาขัดขวาง
ยัยตุ่ม….อย่าไปช่วยมัน !”  แตนตะโกนห้ามเพื่อนสาว  ปล่อยให้มันไหม้ไป….ถ้ามันหลุดออกมาได้  มันจะฆ่าพวกเรานะ !
ไม่จริงหรอก  คุณวนาไม่เคยคิดร้ายใคร”   ตุ่มตะโกนตอบ  มือยังชุลมุนอยู่กับการดับไฟ หมอบุญนั่นแหละคิดจะฆ่าเรา   ตัวยังไม่รู้อะไร….เราเกือบต้องตายเพราะหมอผีคนนี้  เสกผีดิบไปตามฆ่าเราแล้ว ดีว่ามีพระธุดงค์มาช่วยเราไว้ทัน !
เป็นความจริงหรือนี่…?”   แตนตกตะลึง   คาดไม่ถึงว่าอาจารย์บุญจะกล้าทำถึงขนาดนี้
เฮ้ย….ไอ้เด็กเวร   มันต้องกูเอง !หมอผีเฒ่าทำท่าฮึดอัด   ไม่พอใจที่ถูกฉีกหน้าแต่เหนือสิ่งอื่นใด   จะยอมให้ใครปล่อยนางไม้สาวออกมาไม่ได้อย่างเด็ดขาด
รีบล้วงมือลงไปในย่าม  หยิบถุงผ้าใบเล็กๆใบหนึ่งออกมา  ดึงเชือกที่มัดปากถุงออก
จัดการฆ่าพวกมันให้หมด  โหงพรายของข้า !
สิ้นเสียงสั่ง  ที่ปากถุงพลันมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมา  แล้วรวมตัวกันขึ้นเป็นรูปร่าง  เหมือนกับอสูรกาย หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว    ลอยละลิ่วเข้าหาต้นอย่างรวดเร็ว
ระวังนะพี่ต้น”   ปื๊ดร้องเตือน  เห็นชายหนุ่มถือดุ้นฟืนในมือตั้งท่าเตรียมรับมืออย่างเต็มที่  พอเจ้าอสูรร้ายทะยานเข้ามา  เขารีบหวดดุ้นฟืนออกไปสุดแรง
เปร๊ยะ !
ประกายไฟแตกกระจายว่อน  ดุ้นฟืนหักออกเป็นสองท่อนในท่อนในทันที   แต่อสูรร้ายยังไม่มีท่าทีสะดุ้งสะเทือน มันกางกงเล็บออกขยุ้มลงไปบนลำคอของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
อ๊ากกกกกซ์ !
มีแสงสว่างวาบออกมาจากร่างของต้น  ทำให้เจ้าอสูรร้ายต้องรีบปล่อยมือ  แผดร้องลั่นอย่างเจ็บปวด
คงจะเป็นอำนาจใบไม้เสกของพระธุดงค์ชรานั่นเอง ที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์เช่นนี้ขึ้น  ปื๊ดยกมือตบกระเป๋าเสื้อหายหวาดกลัวอสูรที่อยู่ตรงหน้าอีกต่อไป
รีบปล่อยคุณวนาออกมาดีกว่าพี่ต้น   ทางนี้ผมจัดการเอง !”   เด็กหนุ่มถือกิ่งไม้วิ่งออกมาล่อเจ้าอสูรกายเอาไว้ มาซีวะ   เก่งจริงมาจับกูซี่”!   
เด็กหนุ่มร้องท้าเหยงๆ  แต่พวกมันไม่กล้าเข้ามาใกล้ คงกลัวว่าจะโดนแบบเดียวกัน รีบถอยกรูดกลับไป
ไม่รอช้าให้เสียเวลา  ต้นวิ่งปราดไปที่กองไฟซึ่งสุมอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่  ตัดสินใจใช้เท้าถีบกองฟืนที่สุมอยู่นั้นแตกกระจายออกเป็นช่อง   โดยไม่นึกหวั่นเกรงว่าจะถูกเปลวไปอันร้อนแรงลวกเอา
เปลือกไม้รอบๆโคนต้นมีรอยถูกเผาไหม้เกรียม  แต่หมุดสนับเงินที่ปักตรึงอยู่กับลำต้น  ยังคงแลเห็นได้อย่างเด่นชัด
ชายหนุ่มล้วงเศษจีวรที่ได้มาจากพระธุดงค์ชราออกมาจากอกเสื้อ  ฝ่าเปลวไฟก้าวเข้าไปประชิดต้นไม้
แล้วเอาประกบลงตรงหัวหมุดนั้น  พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน
หลวงพ่อ….ขอได้โปรดแผ่เมตตาบารมี  มาช่วยผมด้วยเถิดครับ
พยายามทำสมาธิให้แน่วแน่  กดเศษจีวรไว้กับหัวหมุด ไม่อีนังขังขอดกับเปลวไฟที่กำลังลามเลียลุกไหม้อยู่ใกล้ตัว
ครืน น น….เปรี้ยง !
เหมือนสวรรค์เป็นใจ  ฟ้าลั่มโครมครืนแล้วฝนก็เทกระหน่ำลงมาในบัดดล   
กองไฟค่อยๆดับมอดลงทันที  เมื่อโดนสายฝนซัดกระหน่ำ  ประกอบกับลมแรงที่พัดอู้มา  ร่างกายของทุกคนต่างเปียกปอนกันถ้วนหน้า
ความเย็นอันชุ่มฉ่ำ  ดับความร้อนรอบๆกายต้นมลายหายไปจนหมดสิ้น   ท่ามกลางสายฝน ที่เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา  บังเกิดมีรัศมีสีเหลืองสว่างวาบออกมาจากเศษจีวรในอุ้งมือของต้น  จากนั้นหมุดสนับเงินจึงค่อยๆเคลื่อนตัวออกมาจากต้นไม้  ชายหนุ่มรีบถอนมันออกมาในทันที
คราวนี้มันช่างถอนออกได้ง่ายดายเสียนี่กระไร   เหมือนกับถูกปักเอาไว้กับหยวกกล้วยยังไงอย่างงั้น
วนาปรากฏกายขึ้นมา  สีหน้าดูอิดโรย  แต่ยังเรืองรองด้วยรัศมีแห่งเทพที่แผ่ออกมารอบกาย  ร่างนั้นซวนเซเล็กน้อย  ทำท่าจะล้มลง
คุณวนา….!”
ต้นรีบปราดเข้าประคอง  กายของนางไม้สาวร้อนผ่าว  เป็นเพราะถูกสุมไฟอยู่นาน  หล่อนคงได้รับความเจ็บปวดทรมานไม่ใช่น้อย
ฆ่ามันซี่….รีบฆ่าพวกมันเดี๋ยวนี้”    เสียงอาจารย์บุญตะโกนสั่งฝ่าสายฝนอย่างฉุนเฉียว เจ้าอสูรกายซึ่งกำลังจดๆ จ้องๆ ด้วยความเข็ดเขี้ยว  รีบพุ่งทะยานเข้าหานางไม้สาวในทันที
       มันจะต้องรีบฉกโฉยโอกาสในขณะที่นางไม้สาวยังได้รับบาดเจ็บอยู่นี้  บดขยี้ทำลายหล่อนเสียเพื่อเป็นการตัดกำลังของฝ่ายศัตรู
ทว่า….เจ้าอสูรกายประเมินสถานการณ์ผิดไปอย่างถนัด  สายฝนอันชุ่มฉ่ำทำให้ความร้อนในกายนางไม้สาวลดลงอย่างรวดเร็ว  หล่อนชำเลืองมองแวบหนึ่ง แล้วสะบัดนิ้วชี้ออกไป
วู่มมม!
ลูกไฟดวงใหญ่ขนาดลูกมะพร้าว  พุ่งออกจากปลายนิ้วของหล่อน  ตรงเข้าปะทะร่างของเจ้าอสูรกายระเบิดแหลกเป็นจุลไปในพริบตา
มันไม่ทันได้ร้องออกมาเลยสักแอะเสียด้วยซ้ำไป    หมอผีเฒ่ายืนตะลึงไปชั่วขณะ  เริ่มมองเห็นลางหายนะมาเยือนอยู่ตรงหน้า  หากไม่รีบลงมือกำจัดหล่อนเสียเดี๋ยวนี้  จะไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอีกต่อไปเลย
เห็นนางไม้สาวยังอยู่ในอาการโผเผ  มีต้นคอยช่วยประคองอยู่  อาจารย์บุญรีบดึงมีดหมออกมาจากย่าม ยกขึ้นจรดว่าคาถากำกับ  ตั้งใจจะเผด็จศึกลงให้ได้โดยเร็ว
มึงจะต้องพินาศด้วยมีดหมอของกู”   ตวาดเสียงดังก้อง  พร้อมกับเงื้อมีดขึ้นสุดแขนหมายร่างนางไม้สาวเป็นเป้า
อย่านะ !
ต้นเอาตัวเองบังไว้  ร้องห้ามเสียงหลง  ด้วยอนุภาพขอความรักซึ่งเขามีต่อนางไม้สาว  ทำให้เขาไม่รู้สึกหวั่นเกรงต่อมีดหมอเลยแม้แต่น้อย    เขายอมที่จะสละชีวิตของตนเอง   เพื่อปกป้องหล่อนเอาไว้
ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งหมอผีเฒ่าได้อีกต่อไปแล้ว  มีดหมอพร้อมที่จะถูกขว้างออกไป  โดยมินำพาต่อเสียงห้ามและการกระทำของต้น
“อยากเข้ามาขวางทางมีดเอง  ช่วยไม่ได้ !
ถ้าชายหนุ่มคนนี้ตายไปเสียคน  จะไม่มีใครสามารถช่วยนางไม้สาวได้อีกต่อไป  หมอผีเฒ่าคิดเช่นนั้น
ขยับมีดในมือเตรียมขว้างออกไป
โดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน  สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาที่ปลายมีดอย่างแรง  เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เปรี้ยง !
ประกายไฟสว่างจ้าแลบแปล๊บปล๊าบจากมีดตรงเข้าสู่ร่างอาจารย์เฒ่า   ที่ยืนสะดุ้งเฮือกชูมือค้าง
ร่างนั้นไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก  ค่อยๆเอนล้มหงายผลึ่งลงไป  ท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคนที่เห็นเหตุการณ์
หมอผีเฒ่าใจอำมหิต  ได้รับเคราะห์กรรมตามสนองทันตาเห็น
หนีเร็วพวกเรา !
ความกลัวแล่นเข้าจับขั้วหัวใจหมอฉุย  หากมัวชักช้ามีหวังต้องตายตามอาจารย์บุญไปแน่  รีบหันหลังกลับวิ่งฝ่าสายฝน  นำหน้าเจ้าอ้นโกยอ้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
รอด้วย….รอแตนด้วย !
เหตุการณ์อันน่าสยองที่ได้เห็น  ทำให้แตนรู้สึกมือไม้อ่อนปวกเปียกไปหมด  ก้าวขาไม่ออก  ได้แต่ร้องโหวกเหวก  แต่ไม่มีใครสนใจ  ทั้งหมอฉุยกับเจ้าอ้นต่างตั้งหน้าตั้งตาหนีเอาตัวรอดไป
หันมาทางนางไม้สาว  เห็นหล่อนกำลังลุกขึ้นยืนก้าวเดินตรงมาหา  ยิ่งเกิดความกลัวจนลนลาน
ขยับก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว  แล้วเกิดสะดุดเอารากไม้ล้มลง
พื้นดินที่เฉอะแฉะไปด้วยน้ำฝน  ทำให้ร่างของหล่อนเปรอะเปื้อนดินโคลงจนมอมแมมไปหมดพยายามจะลุกขึ้น  แต่ไม่อาจทำได้ดังใจนึก
รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างจะแข็งชา  หมดเรี่ยวหมดแรง ไม่สามารถพยุงกายลุกขึ้นยืนได้
อย่า….อย่าทำอะไรฉันฉันกลัวแล้ว !
เห็นวนายังคงเดินทื่อเข้ามาหา แตน ตาเหลือกถลนด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด  ได้แต่ถอถอยหนี เกลือกกลั้วไปตามโคลนตม
นึกในใจว่าคราวนี้  คงจะไม่รอดแล้วอย่างแน่นอน
ได้โปรดเถอะ….ฉัน…..ฉันกลัวแล้ว…..ฉันกลัวแล้ว !
ทุกอย่างก้าวของนางไม้สาว  ซึ่งกำลังเดินฝ่าสายฝนตรงมาหาอย่างช้าๆ  เป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับหญิงสาวยิ่งนัก
เหมือนเห็นพญามัจจุราช  ที่กำลังจะมาคร่าชีวิตหล่อนไม่มีผิด
อย่า …..อย่าเข้ามา….อย่า !
เมื่อหมดปัญญาที่จะหนีแล้ว  แตนจึงยกมือปิดหน้านั่งรอความตายตัวสั่นงันงกอยู่ตรงนั้นเอง
ท่าทางที่หวาดกลัว  จนแทบเป็นบ้าเป็นหลังของหญิงสาว  ทำให้วนาซึ่งกำลังเคืองแค้นอย่างหนักต้องหยุดชะงัก กลายเป็นรู้สึกสมเพชวทนาขึ้นมาแทนที่
นางไม้สาวยื่นมือออกไป   แล้วบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  
ลุกขึ้นมาเถอะค่ะคุณแตน
แทบไม่อยากเชื่อหูของตนเอง   หล่อนคิดว่าหูคงจะเฝื่อนไป  ค่อยๆเอามือที่ปิดตาอยู่ออก  เงยหน้าขึ้นมอง   เห็นนางไม้สาวกำลังส่งยิ้มมาให้   แววตาที่จ้องมองหล่อนอยู่  เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตร
เลอะเทอะหมดแล้ว….ลุกขึ้นมาเถอะค่ะคุณแตน บอกพร้อมกับช่วยฉุดหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน  “….ดูซิคะ  มอมแมมหมดเลย
เธอ….เธอไม่ทำอะไรฉันแน่ะนะ?”   แตนยังไม่ค่อยแน่ใจนัก
ไม่หรอกค่ะคุณแตน   ขออย่างเดียว  สัญญาได้ไหมคะว่าคุณแตนจะไม่คิดร้ายกับวนาอีก?”
ค่ะๆ…..แตนเข็ดแล้ว…..ขอบคุณ…..ขอบคุณที่ไว้ชีวิตแตน !
รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกหนหนึ่ง  แตนรีบยกมือไหว้ตัวสั่น  แล้วหันหลังกลับวิ่งแน่บเต็มที่   ก่อนที่นางไม้สาวจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
ต้น ตุ่มและปิ๊ดเห็นสถานการณ์คลี่คลายลงไปในทางที่ดี   ต่างรู้สึกตื้นตันในความมีน้ำใจของวนาพากันเดินเข้ามาหา
คุณวนาช่างใจดีจริงๆ”   ตุ่มออกปากชมซึ่งๆหน้า  ขนาดยัยแตนทำกับคุณถึงเพียงนี้  คุณยังมีใจอภัยให้อีก
อย่าไปคิดอะไรมากเลยค่ะ   ทุกอย่างมันจบสิ้นลงไปแล้ว   วนารู้ดีว่าเพราะความรักความหึงหวงในตัวคุณต้นเลยทำให้คุณแตนเข้าใจผิด  วนาไม่อยากถือสาหาความหรอกค่ะ
แล้วหมอฉุยล่ะ   จะเอายังไงครับคุณวนา?”   ปื๊ดถามขึ้นบ้าง
ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ   หมอบุญก็ชดใช้กรรมไปแล้ว  เป็นบทเรียนที่พวกเขาจะต้องจดจำกันไปอีกนาน   คงไม่กล้าที่จะมาคิดร้ายกับวนาอีก”    นางไม้สาวรู้สึกมั่นใจเช่นนั้น
กลับกันดีกว่า    ฝนตกหนักเสียด้วย  เดี๋ยวจะไม่สบายกัน
ไม่มีท่าทีว่าฝนจะยอมหยุดตกง่ายๆ  ต้นจึงบอกกับทุกคน  วนาพยักหน้าเห็นด้วย
ถ้ามีใครมาเห็นเราอยู่กับศพหมอบุญ  จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเถอะค่ะคุณปื๊ด   วานช่วยไปส่งคุณตุ่มด้วย ไม่ต้องห่วงวนากับคุณต้น  เราหาทางกลับเองได้ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยวนา
       เด็กหนุ่มรับปาก  แล้วให้ตุ่มซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ ขี่ฝ่าสายฝนออกไปจากป่าช้า
จับมือวนาไว้ให้แน่นๆนะคะ  วนาจะพาคุณต้นกลับไปที่ห้อง
นางไม้สาวยื่นมือให้ชายหนุ่มจับ  ตั้งสมาธิอยู่ชั่วครู่เดียว  ทั้งคู่ก็หายวับไปในทันที  
ทิ้งศพหมอผีเฒ่า  ให้นอนตากฝนอยู่อย่างโดดเดี่ยว  ในป่าช้าแห่งนั้น
                                           ************
แตนวิ่งมาตลอดทางไม่ได้หยุด  จนกระทั่งถึงเรือนอาจารย์บุญ  เห็นหมอฉุยกับเจ้าอ้น และโฉมศรีนั่งรวมกันเป็นกระจุก ตัวสั่นงันงกอยู่หน้าพระพุทธรูปที่ตั้งเรียงรายบนโต๊ะหมู่บูชา
ต๊าย  คุณแตน !...คุณพระคุณเจ้าช่วย  โฉมคิดว่าคุณแตนเสร็จมันไปซะแล้ว !”   พอเห็นหน้าหล่อน สาวใหญ่เอะอะเสียงลั่นบ้าน  แข่งกับเสียงพายุฝน  เนี่ยกำลังเป็นห่วงอยู่พอดี….วานใครให้ช่วยไปดูก็ไม่มีใครยอมไป !
หมอฉุยกับอ้นนั่นแหละตัวดี   ทิ้งแตนหนีเอาตัวรอดมาดื้อๆ เลย”   หญิงสาวต่อว่าอย่างเคืองๆ  นั่งหอบจนตัวโยนด้วยความเหน็ดเหนื่อย  เนื้อตัวเปียกปอนมอมแมมไปหมด
โธ่  คุณแตน….ถ้าผมไม่รีบหนี  มีหวังโดนมันเล่นงานผมตายน่ะซีครับ”   หมอฉุยแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
แล้ว….แล้วนี่คุณแตนรอดมาได้ยังไงกัน?”   โฉมศรีถามอย่างแปลกใจ เห็นหมอฉุยบอกว่ามันหลุดออกมาได้แล้ว
แตนไม่รู้เหมือนกันน้าโฉม…..อยู่ๆมันก็เกิดเปลี่ยนใจปล่อยแตนมา
 “หา….แย่ล่ะซี !”  เด็กหนุ่มหน้าผีอุทานลั่น  มันอาจจะแกล้งปล่อยคุณแตน  แล้วสะกดรอยตามมาจัดการกับพวกเราให้หมดทุกคนก็ได้นะ….เร็ว !  รีบหนีกันเถอะ !”
ตาลีตาลานจะลุกขึ้นแผ่นหนี   แต่กลับถูกหมอฉุยยึดมือเอาไว้
มึงจะไปไหนไอ้ปอดแหก  ?”   อยู่ที่นี่แหละ  มันไม่กล้าเข้ามาหรอก   ที่นี่มีแต่พระปลอดภัยที่สุดแล้ว  ถ้าขืนออกไปมึงมีหวังถูกมันหักคอตายแน่ไอ้อ้น !”
คงจะจริงอย่างที่หมอฉุยว่า  เจ้าอ้นยอมนั่งลงแต่โดยดี   เหลียวมองไปรอบๆตาล่อกแล่ก  ข้างนอกฝนกำลังตกหนัก  เสียงฟ้าร้องลั่นดังครืนๆ  สายฟ้าแลบแปล็บปลาบ  บรรยากาศช่างน่าสะพรึงกลัว
แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดี  โธ่ ไม่น่าเลย”   สาวใหญ่โอดครวญ  “…..โฉมไม่น่าหาเหาใส่หัว  คิดไปตอแยกับมัน   นี่มันคงจะโกรธแค้นคอยอาฆาตตามราวี   จนอยู่ไม่เป็นสุขกันแน่ล่ะคราวนี้  ตายแน่เลยโธ่เอ๊ย…..!”
อาจารย์ตายไปแล้ว  ทีนี้ใครจะเป็นคนปราบมันล่ะ?”   เด็กหนุ่มหน้าผีปรารภอย่างหวาดกลัว
ต้องมีซี่ !.....เราต้องหาอาจารย์เก่งๆมาปราบมันให้ได้ !
หมอฉุยยังไม่ยอมเลิกล้มความคิดที่จะจัดการกับนางไม้สาว  ทั้งๆที่ล้มเหลวมาแล้ว ไม่รู้ตั้งกี่ครั้งกี่หน
พอกันทีแตนเห็นจะไม่เอาด้วยอีกแล้ว !”    หญิงสาวพูดโพล่งขัดขึ้นมา  เราไม่มีวันเอาชนะมันได้หรอก อาจารย์บุญต้องตายอย่างน่าทุเรศแค่ไหนฉัน เห็นกับตา  อีนังนี่มันไม่ใช่ผีธรรมดา  ถ้าขืนไปยุ่งกับมันอีก ทีนี้มีหวังมันเอาเราตายแน่ !
แต่ถ้าปล่อยเอาไว้   มันจะต้องตามมาคิดบัญชีกับเราเหมือนกันนะครับคุณแตน”  หมอฉุยให้ความเห็น
คงไม่หรอกนะ”  แตนสั่นหน้า  นึกถึงคำพูดของวนาที่กำชับเอาไว้ก่อนที่จะปล่อยตัวมา  ถ้าเราไม่ไปตอแยกับมันอีก  แตนติดว่า  มันคงจะไม่ยุ่งกับเราอย่างแน่นอน
คุณแตนเชื่ออย่างงั้นหรือคะ?”  โฉมศรีถามย้ำ
เชื่อซิน้าโฉม….ไม่งั้นมันคงไม่ปล่อยแตนมาหรอก
แล้วแล้วเรื่องคุณต้นล่ะ   จะว่ายังไงคะ?”
แตนคิดว่าจะตัดใจ  เลิกยุ่งเกี่ยวกับพี่ต้นอีกต่อไป……ในเมื่อเขาไม่ได้รักแตน   ก็ป่วยการที่จะไปตามตื้อเขาอยู่อีก  ผู้ชายในโลกนี้  ไม่ได้มีแค่พี่ต้นเพียงคนเดียว”  
หญิงสาวพูดอย่างหนักแน่น  ชัดถ้อยชัดคำ
                               ************
ฝนขาดเม็ดไปนานแล้ว  เมื่อโฉมศรีกลับมาถึงอพาร์ตเม้นท์  ทิ้งไว้แต่ละอองหยาดน้ำ ที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ใบหญ้า
พื้นดินเจิ่งนองไปด้วยน้ำ  ซึ่งยังคงตกค้างขังอยู่ตามแอ่ง  สะท้อนกับแสงในยามหัวค่ำ  แลดูเป็นประกายระยิบระยับ  ทุกครั้งที่หล่อนก้าวย่างเหยียบลงไป
สาวใหญ่หายใจหายคอแทบไม่ทั่วท้อง  เมื่อนึกขึ้นมาว่า  จะต้องกลับมายังที่ซึ่งนางไม้สิงสู่อยู่ ใจคอไม่ค่อยสู้ดีขึ้นมาในทันที
เพราะหล่อนองที่เป็นตัวเจ้ากี้เจ้าการ  หาหมอผีมาทำพิธีขับไล่ตั้งแต่แรก  จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวลุกลามไปใหญ่โต   เวลานี้นางไม้สาวถูกปลดปล่อยกลับมาแล้ว  และคงจะไม่ไปไหนนอกจากอยู่ในห้องของต้นนั่นเองแหละ   ถ้ายังมีความอาฆาตเคืองแค้นอยู่ละ  หล่อนจะทำยังไง
คิดขึ้นมาแล้ว  ให้รู้สึกขนลุกขนพองยิ่งนัก
ทั่วทั้งอพาร์ตเม้นท์เงียบวังเวงอย่างน่าประหลาด  ในห้องทำงานของหล่อนปิดไฟมือสนิท  ลุงม้วนกับแม่แจ่มก็ไม่รู้หายหัวไปอยู่เสียที่ไหน
ทำไมที่นี่จึงว่างเปล่า  ราวกับไม่มีผู้คนเอาเสียเลย   รีบสาวเท้าก้าวพรวดพราดไปที่ประตูกระจก  จะไขกุญแจเปิดเข้าไป  พลันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากลานจอดรถที่ใต้ถุน
       สาวใหญ่หันไปดูแล้วต้องสะดุ้งสุดตัว
       มีเงาร่างๆ หนึ่งโผล่พรวดออกมาจากในมุมมืด



วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เตียงนางไม้ ตอนที่ 42


42...

 “แย่ละ….มีคนมาช่วยพวกมัน !
อาจารย์บุญลืมตาโพลงขึ้นมา  สีหน้าตื่นตระหนก  พลอยทำให้เจ้าอ้นต้องเหลียวมองล่อกแล่ก
ไหน   อาจารย์...อยู่ไหน?”
ไอ้เซ่อเอ๊ย….มันไม่ได้มาที่นี่หรอก  อยู่กับพวกมันหลังป่าช้าโน่น
อ้าว   แล้วอาจารย์มองเห็นได้ยังไงกันล่ะ?”
ถามออกไปตามประสาคนเซ่อซ่าด้อยปัญญา เลยถูกอาจารย์ยันโครมเข้าเกือบหงายเก๋งไป
ไอ้เวรกูนั่งสมาธิเห็นเว้ย วิชาอาคมมันไม่เบา ทำลายผีดิบของกูเสียหมดเลย!
ฮ้า! ใครเหรออาจารย์?”
พระธุดงค์แก่ๆ  เห็นทีกูจะเอามันไว้ไม่ได้เสียแล้ว!
หมอผีเฒ่าล้วงหยิบเอาควายธนูออกมาจากย่าม เจ้าอ้นเห็นเช่นนั้นรู้สึกหนาวสะท้านเยือกทันที                       ขนาดพระสงฆ์องค์เจ้า  ยังมุ่งหมายจะเอาชีวิต  นับว่าอาจารย์เป็นคนมีจิตใจโหดเหี้ยมอำหหิตผิดมนุษย์มนา
อย่านะอาจารย์อย่าทำอย่างงั้น !”    
เห็นอาจารย์ตั้งท่าจะร่ายคาถา  รีบลนลานร้องห้ามเสียงหลง หมอผีเฒ่าชะงักหันควับมองตาเขียว
กูจำเป็นต้องฆ่ามัน   มึงไม่ต้องมาเสือก
แต่แต่ว่า ท่านเป็นพระนะอาจารย์
กูรู้แล้ว  แต่ถ้ากูขืนปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่  ไอ้พระแก่นั่นมันอาจจะช่วยแก้มนต์สะกดของกู ได้มึงอยากให้ พวกเราถูอีผีนางไม้นั่นตามมาฆ่าตายหมดหรือ  ไอ้อ้น?”
ไม่….ไม่หรอก  อาจารย์  ไม่อยากน่ะเจ้าอ้นหัวเราะแหะๆ
งั้นมึงก็จงนั่งดูอยู่เฉยๆ  ไม่ต้องมาแย้งหรือขัดขวางกูอีก  ไม่งั้นกูกระทืบมึงเละแน่!
อาจารย์บุญกำชับลูกศิษย์  แล้วเอาความธนูวางลงตรงหน้า  พนมมือหลับตาว่าคาถาพึมพำ
                               ************-
พระธุดงค์ชรานั่งฟังต้นตุ่มและปื๊ด   ช่วยกันเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นด้ยอาการอันสำรวม
ด้วยเหตุนี้  โยมทั้งสามจึงถูกหมอผีตามปองร้ายอย่างงั้นล่ะซี”  หลวงพ่อผู้ทรงศีลเอ่ยขึ้น  เมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
ถูกแล้วครับหลวงพ่อ”   ต้นพยักหน้ารับ  ผมไม่เข้าใจจริงๆว่า   ทำไมหมอผีคนนี้ถึงต้องหมายเอาชีวิตของเราด้วย
เขาคงไม่อยากให้โยม  ปล่อยนางไม้ออกมาเป็นอิสระนั่นแหละ  บุคคลใดแล้วแต่ที่คิดเล่นกับไฟ  ย่อมกลัวไฟเผาตัวอยู่เช่นกัน
หมายความว่ายังไงคะหลวงพ่อ?”     ตุ่มขมวดคิ้วถาม  เพราะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำที่มีความลึกซึ้ง  อย่างที่หลวงพ่อพูดออกมา
หมอผีบุญกำลังท้าทายอยู่กับสิ่งที่มีอำนาจเหนือคนธรรมดา  เป็นถึงรุกเทวดา  จึงกลัวว่าจะโดนแก้แค้นเป็นการตอบแทน  หากนางไม้ตนนั้นถูกปลดปล่อยออกมาได้น่ะซีโยม”   พระธุดงค์ชราอธิบาย
แต่คุณวนา  ไม่เคยคิดมุ่งร้ายหมายเอาชีวิตใคร  หมอผีบูญไม่น่าจะทำกับเธออย่างงั้นนี่ครับ  หลวงพ่อ”  ปื๊ดพูดด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจ  เธอเป็นนางไม้ที่จิตใจเมตตา  โอบอ้อมอารี  เคยมีแต่คอยช่วยเหลือคนและสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากเสมอมา  ผมรู้จักกับเธอดี  เธอเป็นอย่างงี้จริงๆ ครับ  หลวงพ่อ
อาตมาเข้าใจ  โดยปกติรุกขเทวดาย่อมประพฤติปฏิบัติแต่คุณงามความดี  มีเมตตาธรรมอยู่แล้ว  หมอผีคงทำลงไป เพราะเห็นแก่อามิสสินจ้างนั่นแหละโยม
ใช่จริงๆ ด้วยครับหลวงพ่อ ”   ต้นเห็นด้วยกับพระธุดงค์ชรา คุณวนายังเคยไว้ชีวิตเขามาแล้วหนหนึ่ง แต่หมอผีคนนี้กลับไม่รู้คุณคนยังคิดแว้งกัดอีก  จิตใจช่างโหดเหี้ยมจริงๆ เลยครับ
ผู้ใดก่อกรรมเอาไว้อย่างไร  ย่อมต้องได้รับกรรมนั้นๆ ตอบสนองเองนั่นแหละโยม  ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกฎแห่งกรรม  พระพุทธองศ์ทรงสอนไว้เช่นนั้น
หลวงพ่อผู้ทรงศีลเทศนาช้าๆ เนินนาบ  ทำให้ต้น ตุ่มและปื๊ด  เมื่อได้ฟังแล้วจิตใจพลันสงบเหยือกเย็นลงอย่างน่าประหลาด  ต่างพากันก้มกราบลงด้วยความรู้สึกที่ซาบซื้งเลื่อมใส
เสียงลมพัดอื้ออึงมาแต่ไกล  ยอมไม้พริ้วไหวเอนลู่ดุจต้องพายุมรสุม   ติดตามด้วยเสียงฝีเท้าที่หนักแน่น จนพื้นเดินเกิดการสั่นสะเทือน
เอาอีกแล้ว….เสียงอะไรกัน!?”   ปื๊ดเหลียวมองล่อกแล่ก   ท่าทางตื่นตระหนก
หมอผีบุญคงจะส่งอะไรมาเล่นงานเราอีกแน่เลย!”   ต้นคาดคะเนเอา
แย่แล้วช่วยเราด้วยเถอะค่ะหลวงพ่อ!
เสียงลมและเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาทุกที  ตุ่มเกิดอาการลนลานหวาดกลัวจนแทบจะนั่งไม่ติด
เย็นไว้โยมขยับมานั่งข้างหลังเถอะ  หมอผีกำลังจะลองดีกับอาตมา  ไม่ใช่โยมทั้งสามหรอกนะ
ทุกคนรีบทำตามที่พระธุดงค์ชราบอก  พากันถดถอยมานั่งรวมกันเป็นกระจุกอยู่ที่ใต้ต้นไม้  มองดูสิ่งที่กำลังจะปรากฎออกมาอย่างตื่นเต้น
ตรงกันข้ามกับพระภิกษุชรา  ซึ่งยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ในอาการสำรวม  ไม่ได้มีท่าทีหวั่นไหวแต่อย่างไร
พื้นดินสั่นสะเทือนหนักขึ้น  กิ่งไม้ใบหญ้าหักโผงผาง  ดงไม้เบื้องหน้าถูกแหวกออกเป็นทาง  แล้วควายธนูขนาดเขื่องตัวดำมะเมื่อมก็ปราฎออกมา
รูปร่างของมันใหญ่โตมโหฬาาร  เขายาวโง้งแหลมเฟี้ยว  กำลังควบตะบืงมาด้วยท่าทางอันดุดัน
มัน….มันมาแล้วหลวงพ่อ”  
ปื๊ดตะโกนออกมาอย่างลืมตัว  เมื่อเห็นท่าทางอันน่ากลัวของมัน
พระภิกษุชรานั่งสำรวมสมาธิแน่นิ่ง  มิได้มีความประหวั่นพรั่นพรึงต่อมหันตภัยที่กำลังเผชิญอยู่เลย แม้แต่น้อย  สีหน้ายังคงราบเรียบ  สงบเยือกเย็น
ควายธนูซึ่งเกิดจากอาคมของหมอผีเฒ่า  ห้อเหยียดมาอย่างรวดเร็ว  แล้วหยุดชะงักพรืดลงนิดหนึ่งรู้สึกแปลกใจที่เห็นศัตรูซึ่งมันได้รับคำสั่งให้มาทำลาย  ยังคงนั่งนิ่งเฉย
มันหายใจพือฟาดสะบัดหัวไปมา  ยกขาหน้าตะกุยพื้นเพื่อเป็นการข่มขวัญ  จากนั้นจึงก้มลงเล็กน้อยให้เขาทั้งคู่พุ่งเหยียดตรงไปข้างหน้า  หมายจะขวิดให้ไส้ทะลัก
เมื่อตั้งท่าเตรียมพร้อมเต็มที่  มันจึงพุ่งเข้าใส่พระภิกษุชราอย่างรวดเร็ว
ตุ่มเกือบจะหวีดร้องออกมาอย่างใจหายใจคว่ำ  เมื่อเห็นควายธนูวิ่งใกล้เข้ามาด้วยท่าทางอันดุร้ายคิดว่าคราวนี้ทุกคนคงไม่รอดแน่
เปรี้ยง  !
น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก   ทันทีที่ควายธนูพุ่งเข้าปะทะพระภิกษุชรา  ร่างของมันเกิดระเบิดแหลกเป็นจุลไปในพริบตา
                               ************
       หมอผีเฒ่า   ตกตะลึงต่อสิ่งที่ได้เห็นทางมโนภาพ   เกิดอาการประหวั่นพรั่นพรึงในบุญบารมีของพระธุดงค์ชราขึ้นทันที
สิ่งที่เกิดจากคาถาอาคมของตนเอง   ไม่สามารถแตะต้องทำอันตรายพระภิกษุผู้ทรงศีล  แม้แต่เพียงแค่ปลายเล็บ
แสดงว่า   อำนาจแห่งธรรมะอันบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้น เหนือกว่าเวทมนต์คาถาของตนมากมายหลายเท่านัก
เป็นอะไรไปอาจารย์?” 
 เห็นหมอผีเฒ่าเหงื่อกาฬแตกพลั่กชุ่มโชมหัวโล้น ศิษย์หน้าผีอดถามขึ้นมาไม่ได้
ควายธนูของกูถูกทำลายไปแล้ว! อาจารย์บุญบอกกับมัน ยังไม่ทันได้ขวิดไอ้พระแก่นั่นเลยเสียด้วยซ้ำไป!
หนีกันดีกว่าอาจารย์   รีบเผ่นไปจากที่นี่เถอะเดี๋ยวพวกมันต้องมาแน่!
ได้ยินอาจารย์บอกเช่นนั้น  เจ้าอ้นรู้สึกลัวขึ้นมาเหมือนกัน  ขนาดควายธนูยังทำอะไรพระธุดงค์ไม่ได้ แล้วจะมีปัญญาอะไรไปขัดขวางไม่ให้คนพวกนั้นมาช่วยปลดปล่อยนางไม้สาว
ไม่กูไม่หนี!”  หมอผีเฒ่าไม่ลดฐิทิมานะที่จะเอาชนะ กูไม่ยอมให้พวกมันมาช่วยอีนางไม้นี่อย่างเด็ดขาด!
อาจารย์ขัดขวางไม่ได้หรอกนะ  รีบหนีไปตอนนี้ยังทัน  ถ้าพวกนั้นปล่อยนางไม้ออกมาได้เมื่อไหร่  เรามีหวังตายแหง๋แก๋!”   เด็กหนุ่มหน้าผีพูดเตือนสติ
ไม่หรอกนะไอ้อ้น  กูจะทำลายมันเสียก่อนที่จะมีคนมาช่วย!
อาจารย์บุญบอกด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
                               ************
 “ได้โปรดช่วยคุณวนด้วยเถอะครับหลวงพ่อ” 
 เด็กหนุ่มเจ้าเนื้ออ้อนวอนพระธุดงค์ชรา  ด้วยความศรัทธาอย่างเปี่ยมล้ม  ในบุญบารมีของพระธุดงค์รูปนี้
อาตมาภาพเป็นบรรพชิต สาวกแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตัดแล้วซึ่งทางโลกทั้งปวง ยึดถือปฏิบัติ ตามคำสั่งสอนมาโดยเคร่งครัด  อย่าให้อาตมาต้องแปดเปื้อนมีมลทินเลยนะโยม
ทำไมละคะหลวงพ่อ?” ตุ่มข้องใจสงสัย
หมุดสนับเงินเล่มนั้น  ถูกปักตรึงอยู่กับร่างนางไม้ อาตมามิอาจช่วยถอนให้ได้หรอก
ฆราวาสทั้งสามเพิ่งจะถึงบางอ๋อเหตุผลที่ช่วยไม่ได้ เป็นเพราะพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย  จะแตะต้องถูกกายของอิสตรีไม่ได้อย่างเด็ดขาดนั่นเอง
นอกจากหลวงพ่อแล้ว  ผมยังมองไม่เห็นใครอีกเลย  ที่จะช่วยคุณวนาได้”   ต้นชักหน้าเสีย ความหวังที่แจ่มจรัสดับวูบลงในทันที
มีซิ….ตัวโยมนั่นยังไงล่ะ
ผมน่ะหรือครับ?” ชายหนุ่มเบิกตากว้าง  ไม่แน่ใจว่าพระภิกษุชราพูดจริงหรือเปล่า อย่าล้อเล่นน่าหลวงพ่อ จะให้ผมเอาอะไรไปสู้กับอาคมของหมอผีบุญล่ะครับ?”
เอาของสิ่งนี้ไปหลวงพ่อล้วงหยิบเศษจีวรเก่าๆ ผืนเล็กๆ ออกจากย่ามยื่นส่งให้ โยมจะต้องเป็นคนถอดหมุดด้วยตนเอง  ตั้งจิตอธิษฐานให้ดีก่อนนะ
โหหลวงพ่อ ….ขนาดฆ้อนยังงัดไม่ออก  แล้วเศษผ้าผืนแค่นี้เนี้ยจะดึงออกเรอะ?”   ปื๊ดแสดงความข้องใจ
เอาเถอะนะ   แล้วโยมจะเห็นเองนั่นแหละ จงไปเถอะ
ได้ยินพระธุดงค์ชราบอกเช่นนั้น  ต้นทำท่าจะกราบลา  แต่ตุ่มรีบสะกิดเอาไว้
เดี๋ยวก่อนพี่ต้น….แล้วถ้าเผื่อหมอผีบุญเสกอะไรมาเล่นงานเราอีกล่ะ   จะทำยังไง?”
อย่ากลัวไปเลยโยม”  หลวงพ่อเข้าใจความรู้สึกของเด็กสาวดี  เอาอย่างงี้แล้วกัน  ไปเด็ดใบไม้มาให้อาตมาสามใบ
ได้ครับ,หลวงพ่อ”   ปื๊ดรีบกระวีกระวาดทำตามคำสั่ง  ลุกไปเด็ดใบไม้มาให้  หลวงพ่อรับไปถือไว้ในมือ  หลับตาลงนิ่งอยู่สักพักครู่หนึ่ง  แล้วลืมตายื่นคืนให้
เอาติดตัวพกใส่กระเป๋าไว้  สิ่งชั่วร้ายจะทำอะไรโยมไม่ได้”           
เด็กหนุ่มรับมาแจกให้จนครบคน  แล้วพากันก้มลงกราบลาพระธุดงค์ชรา
รีบไปเถอะนะ  หมอผีกำลังคิดการชั่วร้ายอีกแล้ว  โยมทั้งสามจะต้องรีบกลับไปที่ป่าช้าโดยเร็ว
หลวงพ่อบอกพร้อมกับช่วยชี้ทางให้
                               ************
แตนเดินงุ่นง่านไปมา  อย่างกระวนกระวายใจเหลือบมองไปทางขอบฟ้าด้านทิศตะวันตก  เห็นเมฆฝนตั้งเค้าทะมึนมาแต่ไกล
พาแตนไปที่ป่าช้าหน่อยได้มั้นคะ?”
หมดความอดกลั้นที่จะทนรอต่อไปได้  หล่อนจึงตัดสินใจขอร้องหมอฉุย
อย่าดีกว่าครับคุณแตน  ผมกลัวคุณจะไปขัดขวางพิธีกรรมของอาจารย์ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา ต้องขอโทษด้วยนะครับ”   หมอฉุยปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
แต่อาจารย์ไปนานแล้ว  ยังไม่ยอมกลับมาเสียที  แตนใจร้อนอยากรู้น่ะ   ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า
ใจเย็นๆดีกว่านะคุณแตน  เดี๋ยวอาจารย์คงจะกลับมาเองแหละค่ะ”   โฉมศรีพูดปลอบใจ  ที่ป่าช้าน่ะมีแต่ความน่ากลัว  ไม่เห็นจะน่าไปเลยนะคะคุณ
แตนต้องไปให้ได้!”  
หญิงสาวยืนกรานความตั้งใจ โดยไม่คิดพึ่งพาความช่วยเหลือจากหมอฉุยอีกต่อไป
อย่าไปดีกว่าครับคุณแตน  เชื่อผมเถอะ
ไม่ได้หรอกนะหมอฉุย แตนเป็นห่วงกลัวว่าอาจารย์อาจจะไปทำอะไรพี่ต้นเข้า
 “แต่อาจารย์บุญรับปากกับคุณแตนไว้แล้วนี่ครับ
แตนรู้นิสัยของพี่ต้นดี   คนอย่างเขาลองตั้งใจทำอะไรแล้ว  ไม่มีทางยอมเลิกล้มง่ายๆ นี่แหละ ที่ทำให้แตนเป็นห่วง
หมอฉุยอึ้งไปครู่หนึ่ง  เมื่อไม่มีทางขัดขวางหญิงสาวได้  เขาจึงจำเป็นต้องพยักหน้ารับ
ได้ครับถ้างั้นผมจะพาคุณแตนไปเอง”   บอกแล้วหันไปทางสาวใหญ่เจ้าของอพาร์ตเม้นท์ ไปด้วยกันมั้ยครับคุณโฉมศรี ?”
ไม่หรอกค่ะ!” หล่อนรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน  โฉมขอรออยู่ที่นี่ดีกว่า  ที่ป่าช้าน่ากลัวออกจะตายไป!
                                           ************
อาจารย์บุญกับเจ้าอ้น   กำลังช่วยกันหาเศษไม้เศษฟืนมากองสุมๆ กันไว้ใต้ต้นไม้
เอาล่ะพอแล้ว จุดไฟได้แล้วล่ะไอ้อ้น!
เมื่อเห็นว่าได้ฟืนกองโต   พอที่จะเผาต้นไม่ใหญ่ให้วอดวายลงไปได้  หมอผีเฒ่าจึงล้วงไฟแช็คแก๊สจากย่าม ส่งให้ลูกศิษย์หน้าผี
ทำอะไรกันน่ะอาจารย์?”  
เสียงทักของแตน  ทำให้เจ้าอ้นที่กำลังจะจุดไฟต้องชะงักมือหันมอง  เห็นหญิงสาวกับหมอฉุยเดินตรงเข้ามาหา
พวกเขากำลังจะมาช่วยปลดปล่อยผีนางไม้  ผมจำเป็นต้องเผาต้นไม้นี้ทิ้งเสีย!”  หมอผีเฒ่าบอก
อ้าว, ไหนอาจารย์บอกว่า  ไม่มีใครจะดึงหมุดสนับเงินเล่มนี้ออกได้ยังไงล่ะ ทำไมต้องเผาต้นไม้ด้วย?”
หมอฉุยถามด้วยความแปลกใจ
ฉันขับไล่คุณต้นกับเพื่อนไปแล้ว  แต่พวกเขาไปเจอพระธุดงค์  ให้ของดีมาแก้มนต์สะกดของฉัน”  อาจารย์บุญเล่าให้ฟัง  แต่ไม่ยอมบอกว่า  ตนเองพยายามฆ่าคนเหล่านั้นด้วย  ขืนปล่อยให้มาช่วยอีนางไม้นี่ได้ พวกเราจะเดือดร้อนไปตามๆ กัน
ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรือ นี่มันต้นไม้ของวัดนะอาจารย์!
ไม่มีหรอกหมอฉุย   นอกจากต้องรีบเผาต้นไม้ทำลายดวงวิญญาณของมันเสีย  ก่อนที่พวกนั้นจะมาถึง
งั้นรีบลงมือเลยอาจารย์!”  
แตนสนับสนุน  เพราะหล่อนก็ไม่ต้องการให้นางไม้สาวหลุดออกมาได้เช่นกัน
ไฟถูกจุดขึ้นมาแล้ว  ค่อยๆลุกลามจากกิ่งไม้แห้งอันเล็กๆ  แผ่ขยายกว้างออกไปทีละน้อย แล้วเริ่มโหมแรงขึ้น
ข้าจำเป็นต้องทำอย่างงี้  ไม่งั้นเจ้าต้องฆ่าข้าแน่  อโหสิให้ข้าด้วยเถอะนะ ฮะฮะฮะฮ่า!
เสียงหัวเราะของอาจารย์บุญ  บ่งบอกถึงความดีใจในชัยชนะ  กลุ่มควันจากเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นทางยาว  เป็นที่พออกพอใจของหมอผีเฒ่าผู้นี้ยิ่งนัก
หากต้นไม้ถูกเผามอดไปเมื่อไหร่  วิญญาณของนางไม้สาวจะต้องดับสูญไปด้วยทันที
หยุดนะ!....หยุดเดี๋ยวนี้!!”                  
ต้นวิ่งพรวดพราดออกมาจากดงไม้หลังป่าช้า เปลวไฟกำลังลุงโชติช่วงอยู่ตรงหน้า   ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตกใจ
ช่วยกันดับไฟเร็วยัยตุ่ม ปิ๊ด!
หันไปสั่งเพื่อนๆ  แล้วชายหนุ่มจึงรีบหักกิ่งไม้อันใหญ่  ออกวิ่งตรงไปที่ต้นไม้  ใช้กิ่งไม่ในมือหวดลงไปเพื่อให้ไไฟกำลังลุกไหม้อยู่ดับลง
ตุ่มกับปื๊ดทำตาม  หักกิ่งไม้มาคนละกิ่งถือวิ่งมาที่ใต้ต้นไม้
อย่านะ !”  
หมอผีเฒ่าตวาดห้าม  สืบเท้าเข้ามายืนขวางหน้า
ผลั๊วะ !
ไม่ต้องมีความเกรงใจในอาวุโสกันอีกต่อไป  ปื๊ดใช้กื่งไม้ใหญ่ในมือหวดอาจารย์บุญผวา  เสียหลักถลาไป
ใครขวางกูเป็นเจอดีแน่!”  เด็กหนุ่มประกาศก้อง
จัดการกับมันเลยหมอฉุย  ไอ้อ้นเร็วเข้า มัวยืนเซ่อทำอะไรอยู่ล่ะ?”

หมอผีเฒ่ารีบร้องสั่ง  ยังไงต้องขัดขวางกันสุดฤทธิ์  จะยอมให้พวกนี้มาช่วยปลดปล่อยนางไม้สาวไม่ได้อย่างเด็ดขาด