วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เตียงนางไม้ ตอนที่ 9

โดย...เจิด จินตนา
. . .
อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ เป็น วนา


          “มีที่ไหนกันเล่า…” ต้นโอดครวญ  คุณก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าในห้องนี้มีแต่เราแค่สามคน…”
          “ฉันไม่เชื่อหรอก!!”
          แตนพูดเสียงสะบัด ผลุนพลันไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าดู ใช้มือกวาดเสื้อผ้าที่แขวนไว้บนราวไปรวมกันอยู่เป็นกระจุกเดียว เมื่อสำรวจดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนอยู่ จึงปิดประตูตู้เสื้อผ้าดังปัง แล้วสะบัดก้นเดินไปเปิดประตูห้องน้ำชะโงกหน้าเข้าไปมอง
          ในห้องน้ำมีแต่ความว่างเปล่า
          หล่อนขมวดคิ้วเรียวงามอย่างสงสัย แล้วเหลียวมองกลับไปที่เตียงนอน
          ใช่แล้วใต้เตียง ต้องซ่อนอยู่ใต้เตียงแน่ ๆ
            หญิงสาวไม่รอช้า  รีบเดินมาคุกเข่าก้มลงมองสำรวจดูใต้เตียง           
            แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น แตนรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมายันเข้าที่บั้นท้ายของหล่อนเต็มเหนี่ยวจนถลาพรวดหน้าทิ่มเข้าไปใต้เตียง
            ว้าย!”
            เสียงหวีดร้องของแตนดังลั่น ต้นกับตุ่มยืนตะลึงพอตั้งสติได้ทั้งคู่รีบช่วยกันดึงร่างแตนออกจากใต้เตียง
            แตนเป็นยังไงบ้างเป็นยังไงบ้าง?” ตุ่มลนลานถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
            หญิงสาวนั่งงงอยู่เป็นครู่ใหญ่ปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำของต้นแน่ หันขวับมาทางชายหนุ่มแล้วตบหน้าเขาเต็มแรง         
            เลวบัดซบที่สุดยังไม่เคยมีใครกล้าบังอาจทำกับฉันแบบนี้….พอกันที!”  สะบัดหน้าลุกขึ้นคว้ามือเพื่อนสาว  กลับได้แล้วยัยตุ่ม กลับ!”
            ตุ่มนั่งทำหน้าแปลกใจ ยังไม่ยอมลุกขึ้น
            “เฮ้ย ! บ้าน่าเพิ่งจะมาถึงก็จะกลับแล้วเหรอยัยแตน…”
            “ถ้าตัวอยากอยู่ก็ตามใจฉันไปล่ะ!”
            แตนปล่อยมือเพื่อน หันหลังก้าวฉับ ๆ ไปที่ประตู ตุ่มรีบลุกขึ้นวิ่งตามไป
            เดี๋ยวซี่เดี๋ยวรอด้วย
            ไม่อยากให้แฟนสาวต้องจากไปด้วยความเข้าใจผิดต้นลุกพรวดพราดตามไปคว้ามือของแตนเอาไว้
            อย่าเพิ่งไปคุณแตนฟังผมอธิบายก่อน
            “ไม่ฟัง!” หญิงสาวสะบัดมือเต็มแรงจนต้นต้องปล่อย หล่อนยกมือขึ้นชี้หน้าเขาตาขวาง อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย แกนะแก นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าแกจะกล้าทำกับฉันอย่างหยาบคายแบบนี้
            “ผมเปล่า!”
            เพียงแค่อ้าปากปฏิเสธ ก็ถูกแตนตบหน้าเข้าให้อีกฉาดใหญ่
            นี่แน่ะเปล่าเชอะ!”
            ชายหนุ่มหน้าชายืนเซ่อ ปล่อยให้แตนสะบัดหน้าก้าวพรวดพราดออกจากห้องไป
            ยัยแตนกำลังเฮิร์ทหนัก คงมีการเข้าใจผิดอะไรสักอย่างไว้หายโมโหแล้วตุ่มจะช่วยพูดปรับความเข้าใจให้เองนะพี่ต้น
            หญิงสาวร่างตุ้ยนุ้ยบอกกับต้นแล้วรีบวิ่งตามเพื่อนสาวของหล่อนไป ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนคลำแก้มที่ถูกตบอย่างมึนงง
            ตั้งแต่รู้จักคบหากันมา แตนยังไม่เคยลงมือลงไม้กับเขาเช่นนี้มาก่อน เพิ่งจะได้เห็นฤทธิ์โมโหร้ายของคนรักวันนี้เอง ทำเอาต้นถึงกับยืนซึม
            วนาปรากฏกายขึ้น ยืนกอดอกพิงตู้เสื้อผ้า มองดูชายหนุ่มอย่างนึกขำ
            นี่น่ะหรือแฟนคุณต้น แหม! ดุยังกับแม่เสือแน่ะ โมโหร้ายน่าดูจริง ๆ
            ชายหนุ่มหันขวับมองหล่อนตาเขียว
            เพราะคุณนั่นแหละ คุณวนาไม่น่าไปทำกับคุณแตนเขาแบบนั้นเลย
            “ก็ใครใช้ให้แฟนของคุณต้นอยากมาลองดีกับข้า เอ๊ย วนาก่อนทำไมล่ะ?”
            หล่อนเถียงฉอด ๆ แล้วค้อนชายหนุ่มด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู จนโกรธไม่ลง ได้แต่ส่ายหน้าดิก
            ไม่ว่าใครจะมาแตะต้องเตียงของคุณไม่ได้เลยเชียวนะผมเชื่อแล้วล่ะว่าคุณเป็นนางไม้หวงเตียงจริง ๆ
            ชะรอยวนาจะรู้ตัวว่าผิด เดินหน้าม่อยเข้ามาหาชายหนุ่ม
            วนาขอโทษที่ทำรุนแรงกับแฟนของคุณต้น
            เขาหัวเราะหึๆ ยื่นมือไปแตะไหล่รุกขเทวดาสาวอย่างแผ่วเบา
            ช่างมันเถอะนะเรื่องมันแล้วไปแล้ว อย่าไปเก็บมาคิดให้เป็นกังวลเลย คุณแตนเขาเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้แหละ พอหายโมโหก็ดีเอง
            “วนาคิดว่าจะขอโทษคุณแตนดีมั้ย?”
            หล่อนถามซื่อๆ แต่ทำเอาต้นถึงกับสะดุ้งโหยง
            หา ! อย่าเชียวนาคุณวนา ถ้าคุณไปหาคุณแตน มีหวังเกิดเรื่องใหญ่สางไม่จบแน่ ผมขอร้องล่ะ
            เห็นสีหน้าอาการตื่นตกใจของชายหนุ่ม นางไม้สาวต้องอมยิ้มอย่างนึกขำ
            จริงซินะ….หากหล่อนจะไปขอโทษแฟนของต้นแล้วจะไปอธิบายกับแตนยังไง ว่าหล่อนเป็นใคร ทำไมถึงได้มาอยู่ในห้องนี้กับคนรักของแตนลำพังสองต่อสอง หญิงสาวท่าทางหึงรุนแรงขนาดนั้น คงจะไม่ยอมเชื่ออะไรง่าย ๆ แน่
            “ถามจริง ๆ เถอะคุณวนา คุณทำอีท่าไหนคุณแตนถึงได้หัวทิ่มเข้าไปใต้เตียงแบบนั้น?” ต้นยังรู้สึกข้องใจอยู่
            อยากรู้จริง ๆ หรือ…?” หล่อนย้อนถาม
            ชายหนุ่มพยักหน้าหงึก นางไม้สาวทำท่าลังเลใจนิดหนึ่ง แล้วชี้มือไปทีเท้าของตนเอง
            ใช้นี่ไง…”
            ต้นยืนทำตาปริบ ๆ แล้วหัวเราะก๊ากออกมา
                        **********
            แตนยังคงไม่มีทีท่าว่าจะยอมหายโกรธต้นได้ง่าย ๆ บ่ายวันนั้น หล่อนนั่งโต้เถียงอยู่กับตุ่มเพื่อนซี้ปึก ที่โต๊ะนั่งเล่นรับลมหน้าเทอเรซ ในคฤหาสน์หลังโอ่อ่า
            ไม่ไกลกันนัก คุณพิทักษ์กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องรับแขก เสียงพูดคุยกันของสองสาวดังลั่นบ้านจนได้ยินมาถึงหูของท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ พอหนัก ๆ เข้าชายสูงอายุต้องเลิกแว่น  ใช้สายตามองปรามมาที่บุตรเสียทีหนึ่ง
            เธอคิดดูให้ดีนะแตน…” ตุ่มพยายามลดเสียงลงให้เบาที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสมาธิของคนอื่น พี่ต้นเขามีเหตุผลอะไรถึงต้องทำกับเธอแบบนั้น?”
            “ไม่รู้ล่ะเขายืนอยู่ใกล้ฉันที่สุดถ้าไม่ใช่เขาแล้วใครล่ะ ที่เป็นคนถีบฉันมุดเข้าไปใต้เตียง?” เสียงของแตนยังคงแผดดังด้วยอารมณ์อันฉุนเฉียว
            เธอเห็นหรือว่าพี่ต้นเขาเป็นคนถีบเธอฉันซี่เห็นกับตาว่าพี่ต้นเขา ยืนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย เธออาจจะลื่นล้มไปเองต่างหาก
            “ตัวฉันเองฉันรู้ดีว่าไม่ใช่ลื่นล้ม จะต้องให้บอกสักกี่ครั้งเธอถึงจะยอมเชื่อ ห๊า! ยัยตุ่ม?”
            “โธ่เว้ย!” ตุ่มชักจะมีโมโหขึ้นเสียงดังมั่ง ถ้ายังงั้นใครเป็นคนทำกันล่ะ ไม่ใช่พี่ต้นแน่ฉันกล้ารับรอง หรือว่าผีทำ?”
            พูดถึงผีตุ่มต้องชะงักพรืด รีบเอามือปิดปาก
            หล่อนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ตัวเองก็โดนใครไม่รู้ตีมือเอาเหมือนกัน เมื่อตอนจะหยิบอาหารในถาดทอง หญิงสาวเจ้าเนื้อทำหน้าทำตาเลิ่กลัก
            เฮ้! หรือว่าในห้องพี่ต้นจะมีผีจริง ๆ
            “ฉันไม่เชื่อหรอก…” แตนสะบัดหน้าพรืด ฉันว่าเขาต้องเอาผู้หญิงซ่อนไว้ในห้องนั้นแน่เมื่อตอนเดินเข้าไปทีแรก ฉันได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงชัด ๆ ฮึ่ม! คอยดูซิฉันจะต้องจับให้ได้คาหนังคาเขาเลย!”
            ตุ่มส่ายหน้าอย่างรู้สึกอิดเหนาระอาใจในตัวเพื่อนของหล่อน
            เธอนี่ขี้หึงเสียจนไม่ยอมรับรู้เหตุผลความจริงอะไรเลยนะแตน
            เสียงออดที่หน้าบ้านดังขึ้น ขัดจังหวะการโต้เถียงของสองสาว
            ไปดูซิลูกว่าใครมา…” คุณพิทักษ์ชะโงกหน้าบอกบุตรสาว
            หนูไปดูให้เองค่ะคุณลุงตุ่มขานอาสาแล้วลุกขึ้นหันบอกกับเพื่อนสาว ต้องเป็นพี่ต้นมาขอปรับความเข้าใจกับเธอแน่ รอเดี๋ยวนะแตน ฉันจะไปเปิดประตูให้
            ยัยตุ่มย้ายร่างอันอุดมสมบูรณ์ด้วยไขมันวิ่งปุเลง ๆไปที่ประตู
            เป็นต้นจริง ๆ ด้วย  ชายหนุ่มแต่งกายสุภาพเรียบร้อย มือหนึ่งหอบถุงใส่ของกิน ที่สองสาวไปลืมทิ้งไว้ในห้องของเขา ส่วนอีกมือถือดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ ห่อด้วยกระดาษแก้วและผูกโบอย่างสวยงาม เขากำลังยืนส่งยิ้มให้กับตุ่มที่หน้าประตูรั้ว
            “หวัดดีพี่ต้น  นึกแล้วว่าพี่ต้องมา  ตุ่มทายถูกเผงเลย….” หล่อนส่งเสียงทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเปิดประตูรั้วบานเล็กให้
            คุณแตนล่ะ?”
            ต้นถามเมื่อก้าวเข้าไปข้างใน ยัยตุ่มทำมือทำไม้ชี้โบ้ยไปที่หญิงสาว ซึ่งกับลังนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ที่เทอเรซชายหนุ่มตามองไปนิดหนึ่งแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนที่จะขยับเดินไปหา ตุ่มรีบปิดประตูรั้วแล้วเดินตามหลังต้นไป
            พอเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้แตนรีบแกล้งหันหลังให้อย่างไม่สนใจใยดี ต้นชะงักนิดหนึ่ง วางข้าวของที่หอบพะรุงพะรังมาลงบนโต๊ะ แล้วยื่นช่อดอกกุหลาบไปตรงหน้าหญิงสาว
            คุณแตนยังไม่หายโกรธผมอยู่อีกหรือครับนี่กุหลาบสีแดงที่คุณแตนชอบ ผมซื้อมาฝาก
            “เอาวางไว้ตรงนั้นแหละหล่อนชี้นิ้วไปบนโต๊ะโดยไม่ยอมหันมามองหน้าเขา
            โดยแสดงกิริยาเช่นนี้  ชายหนุ่มถึงกับสะอึกเล็กน้อย แต่ยังคงทำใจบรรจงวางช่อกุหลาบแดงลงบนโต๊ะกระจกใสตุ่มรู้สึกไม่พอใจในการแสดงออกของเพื่อนสาว ได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆไม่อยากเข้าไปสอด
            คุณแตนกำลังเข้าใจผิด ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายคุณแตนเลย พื้นคงจะลื่นเลยทำให้คุณแตนหกล้มลงไปเอง เลิกโกรธผมทีเถอะนะครับ
            เขาพยายามพูดกับหล่อนอย่างนุ่มนวลที่สุด เพื่อให้หล่อนหายโกรธแต่คราวนี้มันไม่ได้ผล คำพูดของเขายิ่งทำให้แตนฉุนเฉียวหนักขึ้น เหมือนเอาน้ำมันราดเข้าไปในกองไฟ
            หญิงสาวหันขวับมามองตาขวางลุกพรวดขึ้นยกมือขึ้นชี้หน้าเขา
            แกแกยังจะมีหน้ามาแก้ตัวอีกไอ้ผู้ร้ายปากแข็งทำผิดแล้วไม่ยอมรับ มากล่าวหาว่าฉันปรักปรำแกยังงั้นซิไปให้พ้นนะ!” หล่อนออกปากไล่อย่างไม่ไว้หน้า
            ผมไม่ได้แก้ตัวแต่ถ้าคุณแตนไม่เชื่อที่ผมพูดก็ไม่เป็นไรหรอกนะครับ
            “ไปให้พ้นไปให้พ้นเดี๋ยวนี้นะ!!” แตนยิ่งแผดเสียงดังขึ้น
            เสียงเกรี้ยวกราดของบุตรสาว ทำให้คุณพิทักษ์ตกอกตกใจ ต้องลุกเดินออกมาดู
            อะไรกันลูกอย่าใช้วาจาหยาบคายแบบนั้นกับพี่เค้าซิ่ มีอะไรค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันได้นี่นา…”
            ต้นรีบยกมือไหว้ชายสูงอายุ
            สวัสดีครับคุณอาคุณแตนเข้าใจผมผิดน่ะครับ
            “อาได้ยินแตนกับตุ่มเขานั่งถกเถียงเรื่องนี้กันมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว ว่าจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยแต่มันอดไม่ได้…” ชายสูงอายุหันมามองหน้าลูกสาว เรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นี้ ไม่เห็นจะต้องทำเอะอะโวยวายเสียงดังน่าจะปรับความเข้าใจกันดี ๆ ได้นี่นา ลูกแตน
            “คุณพ่อว่าเรื่องเล็กน้อยหรือคะแตนเถียงคอเป็นเอ็น แม้แต่คุณพ่อเองยังไม่เคยทุบตีลูกเลยสักหนเดียว แล้วไอ้ผู้ชายคนนี้มันถือดีมาจากไหน ถึงได้กล้าเตะถีบลูกทำกับลูกเหมือนไอ้พวกคนไพร่ ๆ สันดานหยาบช้า!”
            “พี่ต้นเขาคงไม่ได้ตั้งใจล่ะมั้งลูก!”
            “คุณพ่อไม่ต้องมาช่วยพูดเข้าข้างมัน…” หล่อนพูดไปร้องไห้ไป น้ำตาไหลทะลักออกมาอาบสองแก้ม ผู้ร้ายปากแข็ง ทำผิดแล้วจะขอโทษลูกสักคำยังไม่มี เห็นแตนเป็นคนยังไง….แตนเป็นลูกผู้ดีมีเกียรตินะคะคุณพ่อไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนน ถึงได้มาทำนิสัยไพร่ ๆ แบบนี้กับแตน
            “ผมผมไม่ได้ทำจริงๆ แต่เอ้อ...ผมก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงดี!!”
            ชายหนุ่มเกือบจะพลั้งปากความจริงออกไป แต่เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอหอย ทำให้ต้องยืนอ้ำอึ้งเป็นที่หมั่นไส้ของหญิงสาว
            ยังมีหน้ามาปฏิเสธอีก แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชายไปให้พ้นนะ แล้วไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีกไปซี่ไป๊
            หล่อนกวาดมือไปบนโต๊ะ ทำให้ข้าวของต่างๆและช่อดอกกุหลาบที่ต้นวางเอาไว้หล่นลงมากระจายกับพื้นจากนั้นจึงร้องไห้โฮวิ่งเข้าบ้านไป
            ลูกแตน!!”
            คุณพิทักษ์ร้องเรียกเสียงดัง แต่แตนไม่ยอมหยุดหันมา กลับวิ่งตรงดิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบน ตุ่มยืนเก้ ๆ กัง ๆ มองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที ทำอะไรไม่ถูกแล้วจึงตัดสินใจวิ่งเข้าบ้านตามแตนไป
            ชายสูงอายุส่ายหน้าช้า ๆ หันมามองหน้าต้นอย่างรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
            อาต้องขอโทษด้วยนะต้นลูกสาวอาเป็นคนไม่ยอมรับฟังเหตุผลเอาซะเลย
            “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณอา คุณแตนกำลังโมโหผมมากเลยเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ
            “กลับไปก่อนเถอะนะ….เอาไว้แตนหายโมโหแล้วอาจะให้ไปขอโทษเธอเอง
            “ครับคุณอา ผมกลับก่อนล่ะครับ”         
            ต้นยกมือไหว้คุณพิทักษ์ แล้วก้มลงเก็บช่อกุหลาบขึ้นมาปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ เดินจากไปด้วยท่าทางเชื่องช้าหงอยเหงาชายสูงอายุยืนมองตามอย่างรู้สึกเวทนาจนอดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจยาวออกมา
            เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนนิสัยดีในสายตาของท่าน แต่เพราะนิสัยชอบเอาแต่ใจตัวเองของบุตรสาว ท่านจึงเกรงว่าหนุ่มสาวคู่นี้อาจจะคบกันไม่ได้ยืดนัก
                        **********
            กลับมาถึงห้องพัก ต้นเห็นนางไม้เพื่อนร่วมห้องจำเป็นของเขากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงนอน ชี้นิ้วบังคับให้เสื้อผ้าที่ซักตากไว้บนราวตรงระเบียงจนแห้งแล้วพากันลอยเป็นขบวนพาเหรดเข้าไปในตู้เสื้อผ้า
            ชิ้นไหนที่ต้องแขวน ก็ลอยเข้าสู่ราวแขวนเสื้อนอกนั้นพับตัวเองแล้วลอยเข้าไปตามจุดต่าง ๆ แยกเป็นเสื้อกางเกงและถุงเท้า ที่ใครที่มันอย่างเป็นระเบียงเรียบร้อยไม่ปะปนกัน
            เสร็จเรียบร้อย วนาจึงชี้นิ้วอีกทีให้ประตูตู้เสื้อผ้าปิดสนิทลง เหลียวมามองทางต้น เห็นเขายืนนิ่งอยู่ตรงประตูไม่ยอมพูดยอมจาอะไร
            ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ ไม่พบแฟนของคุณต้นหรือ?”
            เงียบกริบไม่มีเสียงตอบจากปากของชายหนุ่มเขาเดินคอตกไปนั่งลงบนเก้าอี้ ตรงส่วนหน้าที่ถูกจัดให้เป็นห้องนั่งเล่น
            เห็นท่าทางอันหงอยเหงาเซื่องซึและช่อกุหลาบเหี่ยวเฉาที่ยังคงถืออยู่ในมือ วนาพอจะเดาเหตุการณ์ออกหล่อนลุกจากเตียงก้าวเดินช้า ๆ ไปนั่ง ที่เก้าอี้ว่างอีกตัวหนึ่งข้างชายหนุ่ม แล้วเอ่ยปากถาม
            คุณแตนเธอว่ายังไงบ้างล่ะ?”
            “เธอโกรธผมมากโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ยอมพูดดีด้วยเลย
            ต้นบอกทั้งๆที่ยังก้มหน้า  ทำให้หล่อนเริ่มเกิดอาการเศร้าซึมเสียใจขึ้นมาบ้าง
            ไหนคุณต้นว่าไม่ช้าเธอจะดีเอง…”
            “หนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเสียแล้วคุณแตนเธอเข้าใจผิดผมไปอย่างใหญ่โต ด่าว่าผมเสียๆหายๆคุณไม่น่าทำรุนแรงกับเธอเลยชายหนุ่มตัดพ้อต่อว่า
            คุณแตนต่างหากล่ะเป็นคนมาหาเรื่องอยากลองดีกับวนาก่อน ซ้ำยังวางท่ายโสโอหังไม่มีความเกรงใจใครวนาเลยรู้สึกนึกหมั่นไส้ขึ้นมา เท่านั้นเองแหละ…”
            “เท่านั้นเองของคุณวนา แต่ทำให้ผมกับคุณแตนต้องมองหน้ากันไม่ติด แล้วผมไม่รู้จะบอกความจริงกับคุณแตนยังไงด้วยซิ
            เขาพูดเหมือนจะโยนความผิดทั้งหมดมาให้ที่หล่อนคนเดียว วนาเกิดความน้อยใจขึ้นมาในทันที
            จริงอยู่หล่อนผิดเองที่ไม่น่าไปทำรุนแรงกับแตน แต่ผู้หญิงแบบนี้น่ะหรือคือคนที่ต้นรัก….แตนมีกิริยามารยาทที่ไม่ดีงามเอาเสียเลย ซ้ำยังมีท่าทางยโสพูดจากระโชกโฮกฮากเอากับต้น ไม่รู้เหมือนกันว่า คนดีๆอย่างต้น เกิดไปชอบผู้หญิงแบบแตนเข้าที่ตรงไหน
            แต่สังเกตดูท่าทางต้นคงจะรักแตนเอามากๆ ถึงได้มานั่งเศร้าเสียใจอยู่แบบนี้
            เป็นความผิดของวนาเองที่เห็นเธอทำท่าเกรี้ยวกราดเอากับคุณต้น แล้วอดนึกหมั่นไส้ไม่ได้…” นางไม้สาวบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืนต้องขอโทษด้วย ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะลุกลามไปใหญ่โตเช่นนี้….วนารู้สึกเสียใจจริงๆที่เป็นคนทำให้คุณต้นต้องไม่สบายใจ วนารู้ตัวดีว่าเป็นฝ่ายผิด จะขอไปจากที่นี่ไม่มาอยู่รบกวนสร้างความยุ่งยากใจให้กับคุณต้นอีกต่อไป
            เห็นเขายังคงนั่งวางเฉยเหมือนไม่สนใจ คิดว่าในใจของเขายังคงหายโกรธหล่อนที่เป็นตัวการทำให้ความรักของเขาต้องพังทลายลง วนาเดินกลับไปที่เตียงช้า ๆ จากนั้นร่างของหล่อนก็เลือนหายไป
            อีกนานกว่าชายหนุ่มจะตื่นจากภวังค์ เขานั่งคิดอะไรเพลินจนลืมหล่อนเสียสนิท พอนึกขึ้นมาได้รีบหันมองไปรอบห้อง
            คุณวาคุณวนา! !”
            ไม่มีร่างของนางไม้สาวอยู่ในห้องนี้เสียแล้ว
            ชายหนุ่มรู้สึกตกอกตกใจยิ่งนัก เขาไม่ได้โกรธเคืองอะไรหล่อนเลย และไม่ได้ต้องการที่จะขับไล่ไสส่งหล่อนให้ออกไปจากห้องนี้ด้วย รีบลุกพรวดพราดไปดูที่เตียง
            คุณวนาครับคุณยังอยู่หรือเปล่า?”
            ใช้มือควานหาไปรอบๆเตียง มือของเขาสัมผัสแต่อากาศอันว่างเปล่า
            ออกมาเถอะครับคุณวนา….ผมไม่ได้โกรธคุณหรอกนะ ออกมาพูดกันก่อน…”
            เมื่อบนเตียงไม่มี ต้นรีบก้มลงมองดูใต้เตียงอย่างลนลาน
            ผมขอโทษที่ทำให้คุณเกิดความเข้าใจผิด  มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกนะ อย่าไปจากที่นี่เลยคุณวนา! !”
            พร่ำพูดอยู่ตั้งนาน ยังไม่มีเสียงตอบใดๆ ทั้งสิ้นหรือว่าหล่อนจะไปจากห้องนี้แล้ว
            ต้นทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างรู้สึกห่อเหี่ยว เสียใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้วนาต้องจากไป
            แล้วหล่อนจะไปอยู่ที่ไหนกัน  ในเมื่อที่สิงสถิตของหล่อนก็มีเพียงเตียงตัวนี้เท่านั้น! !







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น