วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เตียงนางไม้ ตอนที่ 37

37...



            “คุณแตน….คุณแตนคะ!”           
             โฉมศรีดักรอพบแตนอยู่นาน  พอเห็นหญิงสาวเดินลงบันได อพาร์ตเม้นท์มาจึงเรียกไว้
            “มีอะไรหรือคะ?”
            “เข้าไปคุยในห้องทำงานดีกว่าค่ะ 
            สาวใหญ่เดินนำแตนเข้าไปในออฟฟิชแล้วรีบเปิดประตู   เพราะไม่อยากให้มีใครแอบได้ยินเรื่องที่จะคุยกัน
            “คุณแตนขึ้นไปที่ห้องคุณต้นมาหรือคะ?”   ถามเสียงเบา  จนเกือบจะกลายเป็นกระซิบ
             “ใช่ค่ะ
            “แล้ว….แล้วได้เจอกับผีนางไม้ตนนั้นหรือเปล่าคะ?”
            “เจอซี่น้าโฉมมันก็อยู่ในห้องนั่นแหละ
            “ต๊าย!”  สาวใหญ่อุทานตาโต  เก่งจริงๆนะคุณแตน  ไม่กลัวเลยบ้างหรือไงคะเนี่ย…..ถามจริง? ”
            “กลัวๆ อยู่เหมือนกันแหละค่ะ  แต่แตนจำเป็นต้องทำใจดีสู้เสือเอาไว้ก่อน  เพื่อไม่ให้เสียแผนการณ์ไงคะ
            “แหม  คุณแตรนี่ใจกล้าจังเลยนะคะ  เป็นโฉมล่ะก้อแค่เห็นหน้ามันเท่านั้นแหละ   มีหวังเผ่นแน่บแหง๋เลย นึกขึ้นมาทีไรยังขนลุกไม่หายทุกที
            “อันที่จริงแล้ว  หน้าตาของมันก็เหมือนกับคนดีๆนี่แหละ  ไม่ได้ดูน่ากลัวตรงไหนเลย  ตอนนี้แตนกำลังแกล้งทำดีกับมันอยู่   เพื่อให้ตายใจว่า  เราเลิกคิดตั้งตัวเป็นศัตรูกับมันแล้ว
            “แล้วมันไม่ได้นึกสงสัยมั่งเลยหรือคะ?”
            “ไม่หรอกน้าโฉม  มันก็พูดกับแตนดีนี่….มันคงคิดว่าแตนน่ะเลิกเป็นศัตรูกับมันแล้วจริงๆละมั้งคะ
            “ดีแล้วค่ะ   โฉมอยากให้อาจารย์บุญรีบลงมือจัดการกับมันเสียเร็วๆจังเลย  ขืนปล่อยทิ้งไว้แบบนี้  อีกหน่อยคงไม่มีใครกล้ามาเช่า  ถ้ารู้ว่าอพาร์ตเม้นท์มีผีอยู่”   
            สีหน้าของสาวใหญ่เต็มไปด้วยความกังวล  นอกจากกลัวนางไม้สาวแล้ว  หล่อนยังกลัวกิจการของหล่อนจะต้องพลอยพินาศล่มจมลงไปอีกด้วย
            “ใจเย็นๆไว้ก่อนเถอะค่ะน้าโฉม  เห็นอาจารย์บุญบอกกับแตนว่า  คืนแรมสิบห้าค่ำเดือนนี้  จะลงมือทำพิธีอีกครั้งหนึ่ง”  แตนบอก
            จรงหรือคะคุณแตน?
            “ค่ะ...แตนอยากจะขอไหว้วานอะไรน้าโฉมสักหน่อยจะได้ไหมคะ?”
            “อ๋อ ได้ซิคะมีอะไรจะให้โฉมช่วยก็บอกมาเลยค่ะ
            “วานน้าโฉมช่วยไปบอกอาจารย์บุญทีว่า  ให้ลงมือทำพิธีได้เลย  สำหรับเรื่องพี่ต้นไม่ต้องเป็นห่วง แตนพอมีหนทางที่จะล็อกตัวเอาไว้แล้ว  จะจัดการให้เอง
            “ได้ค่ะ พรุ่งนี้เช้า  โฉมจะรีบไปทันที”   โฉมศรีรับปากอย่างแข็งขัน
                        ************
            “คุณวนาครับ….เปิดประตูให้หน่อยครับ”  
            เสียงเคาะประตูดังขึ้นแต่เช้าตรู่ นางไม้สาวซึ่งกำลังนอนคิดอะไรเพลินอยู่ ต้องรีบลุกขึ้นอย่างแปลกใจ
            “ใครน่ะคุณปื๊ดหรือคะ?”
            “ใช่ครับ ผมเอง
            “เข้ามาซิคะ”  
            หล่อนหยักหน้าให้ประตูเปิดออกเอง  เห็นปื๊ดพรวดพราดเข้ามาหน้าตาตื่น
            “แย่แล้วล่ะครับคุณวนา..เมื่อกี้ผมเห็นพี่ต้นขึ้นรถไปกับคุณแตน
            “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกเขามารับคุณต้นไปทำงานแน่ะค่ะ
            “เอ๋...”  เด็กหนุ่มหน้าเซ่อไปเลย ที่เห็นนางไม้สาวไม่ได้แสดงอาการอนาทรร้อนใจอะไรออกมา
            “ทำไมคุณวนาถึงยอมปล่อยให้พี่ต้นไปกับเขาล่ะครับ?”
            ก็เขาเป็นแฟนกันนี่คะ...คุณต้นน่ะถูกผู้หญิงที่ชื่ออรอนงค์ตามตื้ออยู่ บังเอิญคุณแตนไปเห็นเข้าเกิดหึงหวงขึ้นมาเลยคอยตามคุมแจ  มารับมาส่งไม่ยอมให้คลาดสายตา  เพราะกลัวว่าคุณต้นจะแอบติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นอีก
            “อรอนงค์เหรอ?” ปื๊ดงงหนักเข้าไปอีก อีนังตัวแสบคนนี้ มันเป็นเมียน้อยเตี่ยผมเองนี่นา มันนั่นแหละที่ทำให้แม่ของผมผมช้ำอกช้ำใจ  กินไม่ได้นอนไม่หลับทุกวันนี้
            “แต่ตอนนี้เขาเกิดหันมาสนใจคุณต้นแทนแล้วล่ะ ถึงกับกล้าประกาศต่อหน้าคุณแตน  ว่าเป็นแฟนของคุณต้นจนเกือบจะมีเรื่องมีราวกัน
            “ยัยนี่มันร้ายจริงๆให้ตายซิ   พี่ต้นไม่น่าไปยุ่งกับผู้หญิงพรรค์ยังงี้เลย
            “คุณต้นคงไม่ได้คิดที่จะไปมีอะไรกับเขาหรอกค่ะวนาช่วยพูดแก้ตัวแทน อาจเป็นเพราะว่าคุณอรอนงค์เขาเข้ามาขานรับอาสา ที่จะช่วยให้ได้สัญญาประกันภัยจากเตี่ยคุณปื๊ด ก็เลยจำเป็นต้องติดต่อกัน
            “ เรื่องนั้นผมรู้แล้วล่ะ  พี่ต้นเคยพูดให้ฟัง  แต่ไม่นึกว่ามันจะออกมาในรูปนี้
            “รู้สึกว่าคุณปื๊ดจะไม่ชอบหน้าคุณอรอนงค์เหมือนกัน?”
            “จะให้ชอบได้ไงครับคุณวนาผู้หญิงคนนี้ใช้เสน่ห์ยั่วให้เตี่ยผมหลงมันจนไม่ลืมหูลืมตา   หมดเงินหมดทองไปกับมันมาแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่คนอย่างอีนังนี่มันๆไม่มีความจริงใจกับใครหรอก
            “ไม่ต้องห่วงหรอกนะปื๊ด  มีคุณแตนคอยคุมอยู่เขาคงไม่กล้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณต้นอีกแล้วน่ะ
            “ไอ้นี่แหละครับที่ผมแปลกใจคุณแตนเคยทำกับคุณวนาเอาไว้มาก   ทำไมพี่ต้นจึงยอมกลับไปคืนดีกับเขาอีก  ผมไม่เข้าใจเลย
            “ เขารู้สำนึกผิดแล้วล่ะ  สองวันก่อนคุณตุ่มพาคุณแตนมาขอโทษ  เขารับปากว่าจะเลิกคิดปองร้ายวนาอีกต่อไป
            “แล้วคุณวนาเชื่อหรือครับ  ว่าคุณแตนจะยอมเลิกคิดร้ายกับคุณจริงๆ?”
            “ทำไมล่ะคะ?”
            ​“ลองคิดดูให้ดีซีครับ  ที่ผ่านๆมาคุณแตนทำกับคุณเอาไว้ขนาดไหน  มีอย่างหรือที่จู่ๆก็มาขอโทษคุณ  อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  มันชักจะยังไงๆชอบกลอยู่นานิสัยของคุณแตนเป็นยังไงก็รู้ๆกันอยู่  ผมว่าจะต้องมีแผนอะไรที่ไม่ชอบมาพากล  แอบแฝงอยู่อย่างแน่นอนเลยครับ” 
            ปื๊ดพูดทิ้งท้ายไว้ให้คิด
                        ************
            “ดีมากเลย….ฮะฮะฮะฮ่า  !”
            อาจารย์บุญหัวเราะอย่างดีใจ  เมื่อโฉมศรีนำข่าวจากแตนมาบอก
            “คืนพรุ่งนี้แหละ จะเป็นวาระสุดท้ายของอีนางไม้ตนนี้  ผมจะสะกดมันเอาไว้ ไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิดอีก!”
            “อย่าให้พลาดนะคะอาจารย์  ถ้าคราวนี้เกิดไม่ได้ผลอีก  เห็นทีเราจะต้องเดือดร้อนไปตามๆกัน
            สาวใหญ่ท้วงติงด้วยความเป็นห่วง
            “รับร้องไม่พลาดหรอกครับ  ถ้าคุณแตนสามารถกันคุณต้นออกไปได้จริงๆอย่างที่บอก   อีนางไม้ตัวแสบมันจะต้องเสร็จผมแน่”  
            เพราะมีความมั่นใจในวิชาอาคมของตนเต็มที่หมอผีเฒ่าหัวโล้นถึงกล้าคุยโอ่อย่างลำพอง
            “อาจารย์บุญเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ที่สุดอยู่แล้ว ขอให้วางใจเถอะครับคุณโฉมศรี     หมอฉุยช่วยพูดสนับสนุนเพื่อให้สาวใหญ่เกิดความสบายใจ  เจ้าอ้นลูกศิษย์หน้าผีเลยต้องเป็นขุนพลอยพยัก
            “ใช่แล้วครับ...อาจารย์ของผมน่ อย่าว่าแต่ผีเลย  แม้เทวดายังต้องเกรงกลัว  แค่นางไม้มันเรื่องจิ๊บจ๊อยครับ
            “คุณแตนฝากเงินมาให้อาจารย์ห้าพัน”  โฉมศรีหยิบเงินจากกระเป๋าถือ   ออกมาวางลงบนเสื่อตรงหน้า เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายซื้อของในการทำพิธี  เมื่องานสำเร็จแล้วจะเอามาจ่ายให้อีกสองหมื่นบาท
            ได้ยินแค่นั้น ทุกคนก็หูผึ่ง
            “ขอบใจมากคุณโฉมศรี” 
            อาจารย์บุญทำท่าจะยื่นมือไปหยิบ
            “เดี๋ยวก่อน”    โฉมศรีคว้าข้อมือเอาไว้  เราต้องมาตกลงกันก่อนนะคะอาจารย์งานชิ้นนี้ฉันเป็นคนติดต่อเงินรางวัลต้องแบ่งกันคนละครึ่ง  ถูกมั้ยคะ?”
            “อ๊ะ  ไม่ได้ซิครับ”   หมอฉุยรีบแย้ง  ผมก็มีส่วนร่วมด้วย  เกือบถูกมันเล่นงานจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ต้องแบ่งเป็ฯสามส่วนมันถึงจะถูกนะครับ
            “เอาเป็นว่า  เราแบ่งเท่าๆ กันก็แล้วกันนะ  ไอ้ผมน่ะไม่ได้คิดอะไรมากหรอก  ขอเพียงได้แก้แค้นอีนางไม้นั่นให้สาสมใจก็พอแล้ว”  
            อาจารย์บุญสรุปอย่างเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด  โฉมศรีจึงต้องพยักหน้ารับนับว่าเป็นการจัดสินอย่างยุติธรรมที่สุดแล้ว  ดีกว่าที่จะไม่ได้อะไรเลย
            “สุดแล้วแต่อาจารย์จะเห็นสมควรเถอะค่ะ   ฉันไม่ใช่คนโลภอะไรหรอกนะคะ  แต่ว่าเรื่องเงินเรื่องทองน่ะ มันไม่เข้าใครออกใคร  ต้องตกลงกันให้เรียบร้อยเสียก่อน  จะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันทีหลัง….จริงมั้ยล่ะคะ?”
            “ถูกของโฉมศรี  ผมเห็นด้วย  เราต่างมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วยกันทุกคน  แบ่งเป็นสามส่วนมันถูกต้องแล้วล่ะ
            หมอฉุยพูดสนับสนุน  เพราะถึงยังไงต้องขอมีเอี่ยวด้วย
            “ช่วยกลับไปบอกคุณแตนด้วยนะครับ   ผมจะลงมือทำพิธีสะกดวิญญาณอีนางไม้นั่น  ตามที่ตกลงกันเอาไว้  อย่าลืมกันคุณต้นให้ด้วยแล้วกัน” 
            อาจารย์บุญกำชับ
                        ************
            ฮอนด้าซีวิคสีแดง  พุ่งทะยานมาตามถนนรัตนาธิเบศร์  เมื่อหลุดออกจากสี่แยกแคลายได้  การจราจรค่อยคล่องตัวขึ้น  แตนจึงสามารถเหยียบคันเร่งได้ตามความพอใจ
            “จะไปไหนหรือครับคุณแตน?”   
            ต้นถามขึ้นมา  เพราะเห็นว่านี่ไม่ใช่เส้นทางกลับสู่อพาร์ตเม้นท์
            “หาอะไรกินกันหน่อย   ได้ยินว่าที่เชิงสะพานพระนั่งเกล้าฝั่งโน้นมีสวนอาหารอยู่ริมแม่น้ำบรรยากาศเขาดีอาหารก็อร่อย  แตนอยากไปลองชิมดูตั้งนานแล้วล่ะ  แต่ยังไม่เคยได้ไปซักที
            “คุณมีรถเอง  อยากไปเมื่อไหร่ก็ได้นี่นา
            “แหมให้แตนไปคนเดียวมันก็เซ็งตายชักน่ะซีมีอย่างเหรอ.มันต้องมีพี่ต้นไปด้วยค่อยเข้าท่าหน่อยจริงมั้ยล่ะคะ?”
            “ตามใจคุณแตนเถอะครับ  เอาไงก็ได้” 
             ชายหนุ่มตอบอย่างเนือยๆ  ขี้เกียดขัดใจหล่อน ทั้งๆที่รู้สึกอึดอัดใจเต็มประดา   ที่ต้องถูกคุมตัวแจเหมือนนักโทษ  ตลอดระยะเวลาสองสามวันมานี้
            “ท่าทางพี่ต้น เหมือนไม่เต็มใจจะไปกับแตนยังงั้นแหละ” 
            เหลือบเห็นอาการของเขา  หญิงสาวเลยพูดดักคอ
            “เปล่าหรอกครับคุณแตนผมเพียงอต่อยากกลับไปให้ถึงบ้านเร็ซๆมากกว่า  อยากพักผ่อนเท่านั้นแหละ
            “เหม็นหน้าแตนก็บอกมาตรงๆเถอะ  ไม่พอใจล่ะซี่  ที่แตนคอยทำตัวเป็นก้างขวางคอพี่ต้นใช่มั้ย?”
            “ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกครับ  คุณแตนชอบเข้าใจผิดอยู่เรื่อย  บอกแล้วไงว่าผมไม่เคยคิดที่จะมีอะไร กับคุณอรอนงค์เลยจริงๆ
            “ลองแตนไม่ไปคอบคุมดูซี่  ยัยนั่นมันจะต้องมาตามตื้อพี่ต้นอีก  หุ่นอย่างงั้นโดนมันยั่วหนักๆ เข้า มีหรือ พี่ต้นจะอดใจไหว”  
            โดนพูดแดกดันเข้าแบบนั้น  ชายหนุ่มเลยต้องหุบปากเงียบ  ไม่อยากโต้เถียงให้มากความอีกต่อไปเพียงแต่นึกภาวนาอยู่ในใจ  ขอให้เรื่องมันยุติลงไปโดยเร็ว แตนจะได้เลิกตามคุมเขาเสียที
                        *************
            “พี่ต้นยังไม่กลับมาอีกหรือครับ  คุณวนา?”  
            ปื๊ดแวะมาที่ห้อง  ไม่เห็นชายหนุ่มจึงถามขึ้น
            “ยังค่ะคุณปื๊ด
            “จะสามทุ่มแล้ว”  เด็กหนุ่มดูนาฬิกาข้อมือ ป่านนี้พี่ต้นน่าจะกลับมาถึงนานแล้วนี่นา
            “อาจจะแวะไปหาอะไรทานกันก่อนละทั้งคะ
            “ไปกับคุณแตนน่ะเหรอครับ?”
            “ค่ะ คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะกลับมา คุณปื๊ดมีอะไรหรือคะ?”
            “คืนนี้ผมไม่ได้ไปเล่นดนตรี  ตั้งใจจะมาชวนพี่ต้นออกไปข้างนอก  มีเรื่องอยากจะคุด้วยน่ะครับ
            “งั้นเดี่ยวคุณต้นกลับมา วนาจะบอกให้ไปหาคุณปื๊ดที่ห้องดีมั้ยคะ?”
            “ดีเหมือนกันครับ  ขอบคุณ”  เด็กหนุ่มพยักหน้ารับแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องไป  แต่กลับฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ เอ้อคุณวนาครับ  ผมขอถามอะไรหน่อยเถอะ
            “มีอะไรหรือคะ?”   นางไม้สาวขมวดคิ้ว
            “อย่าหาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ ผมอยากจะรู้ว่า สองสามวันมานี่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นมามั่งหรือเปล่า?”
            “ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ นอกจากว่า  ตั้งแต่มีคุณแตนตอบมารับมาส่งคุณต้น   รู้สึกจะกลับมาช้ากว่าปกติหน่อยเท่านั้นเอง
            “ไม่ใช่อย่างงั้น  ผมหมมายถึงเหตุการณ์ปกติที่เกิดกับตัวคุณเองน่ะ
            อ๋อ  ไม่มีหรอกค่ะคุณปื๊ดถามทำไมหรือคะ?”
            “เปล่า ไม่มีอะไรหรอกครับผมรู้สึกหวั่นๆ ใจว่า คุณวนาจะถูกหมอผีลอบเล่นงานเข้าให้อีกเท่านั้นเอง
            “โถคิดมากไปได้  ไม่มีใครจมาคิดร้ายกับวนาอีกแล้วละค่ะ  ไม่ต้องห่วงห่วงหรอกคุณปื๊ด
            “อย่าเพิ่งวางใจดีกว่านะครับคุณวนา  ผมไม่เชื่อหรอกนะ  ว่าคนอย่างคุณแตนจะยอมเลิกจองเวรกับคุณแล้วจริงๆ
            “รู้สึกคุณปื๊ดจะไม่ยอมมองเธอในแง่ดีเสียมั่งเลยนะคะ
            “ผมคิดว่า  ผมมองคนไม่ผิดหรอกนะครับคุณวนาเรื่องนี้แหละที่ผมอยากจะพูดกับพี่ต้น
            “เรื่องคุณแตนน่ะหรือคะ?”
            “ใช่ครับ  ผมมั่นใจเลยว่า  ที่เขามาทำดีกับคุณ ต้องมีแผนการณ์ชั่วร้ายแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์
            “ไม่จริงหรอกมั้ง  เขาอาจจะมีความบริสุทธิ์ใจจริงๆ คุณปื๊ดคิดมากไปเอง
            “ผมต้องคิดแน่ล่ะครับ  เพระาเห็นๆอยู่แล้วว่าคุณแตนมีความพยายามที่จะทำลายคุณกี่ครั้งกี่หนแล้ว  มีหรือที่จะยอมเลิกรากันง่ายๆ
            “แล้วคุณปื๊ดคิดว่ายังไงล่ะคะ?”
            “ผมว่านะ  เขากำลังหลอกให้คุณตายใจ  แล้วค่อยหาโอกาสทำลายคุณในภายหลัง  ผู้หญิงคนนี้น่ะครับ ดูก็รู้แล้วว่า มีความอาฆาตพยาบาทแค่ไหน
            “ยังไงก็ไม่มีทางทำอะไรวนาได้หรอก  อย่าห่วงเลยคุณปื๊ด ทำใจให้สบายดีกว่า
            “อย่าเพิ่งชะล่าใจดีกว่านะครับคุณวนาจำไม่ได้หรือว่าครั้งก่อน  คุณเกือบจะพลาดท่าเสียทีอาจารย์บุญมาแล้ว ยังดีที่มีพี่ต้นมาช่วยเอาไว้ทัน
            “จริงซีนะ  อาจารย์บุญน่ะเป็นหมอผีที่มีวิชาอาคมเก่งกล้ามากเลยทีเดียว”  นางไม้สาวยอมรับ
            “เพราะอย่างงี้แหละครับ  ผมถึงต้องเป็นห่วงคุณวนา  ถ้าเผื่อว่าคุณแตนกับอาจารย์บุญกำลังวางแผนคิดร้ายต่อคุณจริงๆ มีหวังแย่แน่เลย  พี่ต้นก็ไม่อยู่เสียด้วยแล้วใครล่ะจะช่วยคุณ   เอาอย่างงี้ดีกว่า  ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณวนา จนกว่าพี่ต้นจะกลับมาก็แล้วกัน
            แม้ไม่ค่อยเชื่อนักว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นแต่วนาก็ไม่อาจปฏิเสธความหวังดีของปื๊ดได้
                        ************
            กลุ่มหมอกบางๆแผ่กระจายอยู่ทั่วป่าช้าอันเงียบสงัดจนวังเวง  ท้องฟ้าคืนนี้ดูมือมิดด้วยเป็นคืนข้างแรมแม้แต่แสงดาวยังริบหรี่คล้ายกับจะเป็นลางบอกเหตุ
            กลางป่าช้าใต้ต้นไม้ใหญ่  อาจารย์บุญ  หมอฉุย  และเจ้าอ้น  กำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์ ในการพิชิตนาไงม้สาวอยู่อย่างขะมักเขม้น  ผ้าแพรสีแดงผืนใหญ่ถูกผูกเอาไว้รอบต้นไม้  ซึ่งเคยใช้เรียกวิญญาณ ของนางไม้สาวมาแล้ว  และคราวนี้เพื่อความประมาท  อาจารย์บุญจึงสั่งให้เจ้าอ้นลูกศิษย์หน้าผีตั้งวงสายสิญจน์ขึ้น
            “ผูกให้ดีนะ  คราวนี้มันจะต้องต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์แน่   เอ็งกับหมอฉุยอย่าออกไปนอกวงสายสิญจน์เป็นอันขาดอาจารย์บุญกำชับ
            เพียงชั่วครู่เดียว  สายสิญจน์ก็ถูกวนไว้กับหลักทั้งสี่ต้นอย่างเรียบร้อย  มีเสื่อผืนหนึ่งปูอยู่กลางวง
            “เอาล่ะนั่งดูเฉยๆ ในระว่างี่ข้าทำพิธีอยู่ห้ามส่งเสียงรบกวนสมาธิของข้าอย่างเด็ดขาด  ถ้าไม่อยากวิ่งกันตับแลบอย่างคราวที่แล้วอีก
เข้าใจแล้สอาจารย์ ”  หมอฉุยรับคำ
            ทุกคนพากันนั่งลง  อาจารย์บุญหยิบธูปเทียนออกมาจากย่าม  จุดเทียนก่อนปักไว้บนพาน  แล้วค่อยจุดธูปยกขึ้นพนม  หลับตาพึมพำว่าคาถา
            พิธีกรรมกำลังจะเริ่มขึ้นเดี๋ยวนี้แล้ว  หมอฉุยกับเจ้าอ้นนั่งมองด้วยใจอันเต้นระทึก         คราวนี้จะสำเร็จหรือไม่  อีกไม่นานนักคงได้รู้กัน




                                     

                                     

                                   



                                   





                                   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น