วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เตียงนางไม้ ตอนที่ 41


41...

พวกเขามากันแล้วอาจารย์พวกเขามากันแล้ว!” 
 เจ้าอ้นวิ่งกระหืดกระหอบ  ร้องตะโกนโหวกเหวกมาแต่ไกล   พาให้ทุกคนบนเรือนสะดุ้งตกใจไปตามๆกัน
เด็กหนุ่มหน้าผีเผ่นพรวดขึ้นบันได  มานั่งแหมะลงตรงหน้าอาจารย์บุญ
พวกเขามาแล้วล่ะอาจารย์!”  
ตะโกนบอกอีกหน  เพราะเห็นอาจารย์นั่งเฉย  คิดว่ายังไม่ได้ยิน
นี่แน่ะ!”  หมอผีเฒ่ายกมือเขกหัวมันดังโป๊ก  แหกปากเสียลั่นเชียวนะมึงไอ้เวร!
โห  จารย์….ฉันอุตส่าห์รีบวิ่งมาบอกนะเนี่ย”    เจ้าอ้นเอามือคลำหัว  ต่อว่าแล้วทำหน้าม่อย
ใครใช้ให้มึงแหกปากตะโกนลั่นแบบนี้ล่ะ  ชาวบ้านชาวช่องแตกตื่นกันหมด  ไอ้ห่าลาก
เออ  ไอ้อ้นมันปากเสีย….ปากไม่ดีเอง  โทษทีอาจารย์”    โดนด่าป่าวๆต่อหน้าแขกเหรื่อ เด็กหนุ่มหน้าผีได้แต่นั่งทำตาปริบๆ จนน่าหมั่นไส้
มึงไม่ต้องทำสำออย  เดี๋ยวกูยันเปรี้ยง….บอกว่าเร็วๆเวลานี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
ในป่าช้านั่นไงล่ะ”   มันตอบอย่างงอนๆ
มากันกี่คน?”    แตนถามบ้าง
สามคนครับคุณ  มีผู้ชายกับผู้หญิงรูปร่างอ้วนๆ มาด้วย
คุณตุ่มกับคุณปื๊ด…..ใช่แน่แล้ว  เป็นไปอย่างที่คุณแตนคิดไว้ไม่มีผิด !”  
โฉมศรีจีบปากจีบคอบอก  มองหน้าคนนั้นคนนี้ตาล่อกแล่ก  เกิดความกลัวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจนจนนั่งไม่เป็นสุข
หล่อนกลัวว่า  หากนางไม้สาวถูกปลดปล่อยออกมา จะต้องพลอยถูกเล่นงานเอาด้วยอีกคนในฐานะที่มีส่วนสมรู้ร่วมคิด
เอายังไงดีล่ะอาจารย์”  หมอฉุยแสดงความกังวล  ขืนให้พวกเขามายุ่มย่าม  มันจะไม่ค่อยดีล่ะนา
ฉันจะไปดูเอง ไอ้อ้น    ตามกูมา !”   
อาจารย์บุญคว้าย่ามมาสะพาย  แล้วลุกขึ้นจะก้าวลงจากเรือนไป
เดี๋ยวก่อนค่ะอาจารย์….”   แตนรีบเรียกเอาไว้  อย่าไปทำอะไรพวกเขานะคะ  ถึงยังไงทุกคนก็เป็นเพื่อนของแตน
ครับ    คุณแตน”     หมอผีเฒ่าหันมารับปาก
                                           **********
กว่าจะหาฆ้อนมาได้ก็เสียเวลาไปไม่ใช่น้อย   ต้นตุ่มและปื๊ดรีบกลับมาที่ป่าช้าอีกครั้หนึ่ง
ผมจะปล่อยคุณออกมาเดี๋ยวนี้แหละครับคุณวนา
เห็นหมุดสนับเงินเล่มเล็กนิดเดียว  ต้นมีความมั่นใจว่าจะต้องถอนออกมาได้แน่
เขาเอาปลายฆ้อนด้านที่มีแฉกสำหรับงัดตะปู สอดลงไปที่หัวหมุด  แล้วออกแรงงัดอย่างเต็มที่  แต่มันไม่มีท่าทีว่าจะยอมขยับเขยื้อนเลยแม้สักนิดเดียว
อะไรกันนี่   ไม่น่าเชื่อเลย!?”  รู้สึกแปลกใจจนต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน   หมุดตัวนั้นเหมือนมีอะไรล็อกมันเอาไว้อย่างแน่นหนา ถึงจะออกแรงงัดง้างอย่างไร  มันก็ไม่ยอมขยับเขยื้อน
ขอผมลองมั่ง พี่ต้น”    ปื๊ดเข้ามาขานอาสา  ใช้สองมือจับด้ามฆ้อน   ออกแรงงัดจนตัวโก่งแต่มันไม่เกิดผลอะไรอีกเช่นเดียวกัน
ขนาดลงทุนใช้เท้าช่วยยันต้นไม้ไว้แล้วเย่ออย่างสุดความสามารถ  หมุดเล่มนั้นยังไม่ยอมเขยื้อนเหมือนเดิม
โห….มันแน่นจริงๆเลยพี่ต้น !
ตุ่มบอกแล้วไม่เชื่อ  มันลงอาคมกำกับเอาไว้งัดไม่ออกหรอกค่ะคุณปื๊ด
ต้องออกซีน่าคุณตุ่ม”  เด็กหนุ่มยังไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจง่ายๆ  “..ผมนึกออกแล้วไปหาอะไรมารองหัวฆ้อนดีกว่า  จะช่วยผ่อนแรง  ทำให้งัดได้ง่ายขึ้น
ทุกคนช่วยกันมองหาไปรอบๆต้นเจอกระเบื้องแผ่นหนึ่งที่ใต้ฐานโกศ   ต้นเก็บมันขึ้นมาประกบไว้กับต้นไม้ใกล้ๆกับหัวหมุด
เอ้า   มาลองดูใหม่อีกที
สอดฆ้อนไปที่หมุด  โดยใช้แผ่นกระเบื้องช่วยรองรับ   จากนั้นจึงออกแรงงัดเต็มที่ ปื๊ดเข้ามาช่วยอีกแรง ใช้สองมือจับด้ามฆ้อนเหนียวอย่างสุดแรงเกิด
เปรี๊ยะ  !
เสียงแผ่นกระเบื้องปริแตก  แยกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ  ร่วงกราวลงสู่พื้น  แต่หัวหมุดเจ้าปัญหายังคงยึดแน่นอยู่อย่างเดิม
       มันเหมือนกับถูกเชื่อมติดเอาไว้  เป็นเนื้อเดียวกับต้นไม้   สุดปัญญาที่จะงัดมันออกมา ได้แล้วจริงๆ
       ต้นกับปื๊ดหันมองหน้ากันยืนคอตก   ชักยอมเชื่อแล้วว่าหมุดเงินเล่มนี้  ถูกกำกับเอาไว้ด้วยอาคมขลัง
ยังไงก็ถอนไม่ออกหรอกวะไอ้อ้น…..ไม่มีทาง  !
อาจารย์บุญกระซิบกับลูกศิษย์  ทั้งคู่มาซุ่มแอบดูอยู่นานแล้ว  ตั้งแต่ต้นเริ่มลงมือใช้ฆ้อนงัดหมุดสนับเงินเป็นคนแรก
หมอผีเฒ่าไม่ขัดขวางแต่อย่างใด   คงปล่อยให้ทุกคนทำไป  เพราะมีความมั่นใจว่า  ไม่มีใครจะสามารถถอนหมุดสนับเงินนี้ออกมาได้อย่างแน่นอน
ทำไมไม่ไล่พวกมันไปล่ะอาจารย์?”  ลูกศิษย์หน้าผีกระซิบถาม
ไม่ต้องหรอกรอดูไปเหอะ  เดี๋ยวพวกมันก็ต้องกลับไปกันเอง” 
อาจารย์เฒ่าบอก  แล้วจ้องมองไปที่ใต้ต้นไม้  เห็นปื๊ดกำลังหวดกระหน่ำฆ้อนในมือ   ลงไปที่หัวหมุดอย่างฉุนเฉียว
นี่แน่ะ! นี่แนะ!.......ฮี่โธ่เอ๊ย    ไอ้หมุดระยำ
พอเถอะค่ะคุณปื๊ด   ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก!”   ตุ่มจับมือเด็กหนุ่มเอาไว้ร้องห้าม  เรามาช่วยกันคิดหาวิธีการใหม่   จะดีกว่านะคะ
ยังจะมีวิธีไหนอีกล่ะ   นอกจากลากคอไอ้หมอผีบ้าคนนั้น  มายังคับให้มันเป็นคนถอนสะกดอย่างเดียวเท่านั้น”
ปื๊ดยังแสดงอาการฮึดฮัด
ต้องมีซีคะ  ในเมื่อมันถูกตรึงไว้ด้วยอาคม  เราแค่หาคนที่มีอาคมมาทำพิธีถอมมันออกเท่านั้นเอง  จริงมั้ยล่ะคะ?”
ตุ่มพูดเข้าเค้า   ความจริงทุกคนน่ะจะฉุกคิดได้เสียตั้งแต่ทีแรกแล้ว   จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาออกแรงปลุกปล้ำกับมันให้เหนื่อยเปล่า
ยัยตุ่มพูดถูก”   ต้นพยักหน้าเห็นด้วย  แต่เราจะไปหาหมอผีได้ที่ไหนกันล่ะ?”
ถมเถไปพี่ต้น…..ใช่ว่าจะมีแต่อาจารย์บุญคนเดียวเสียเมื่อไหร่ล่ะ   ผมอผีเก่งๆ ยังมีอีกเยอะไป   พวกนั้นมันคุยโม้โอ้อวดไปอย่างงั้นเองแหละ
หมอผีสะดุ้งโหย๋ง  หน้าชาบวูบขึ้นมาทันที   เมื่อได้ยินเด็กเมื่อวานซืนพูดจาดูหมิ่น
มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ!’   ทนไม่ได้ที่จะโดนหมิ่นศักดิ์ศรี  รีบลุกพรวดพราดออกมาจากที่ซ่อนตวาดลั่นด้วยความโมโหจนหนวดกระดิก วันนี้แหละ  กูจะสั่งสอนให้พวกมึงรู้สำนึก  ไอ้เด็กเมื่อวานซืน
ต้นตุ่มและปื๊ดยืนตะลึงไปชั่วขณะ  ที่จู่ๆ เห็นหมอผีโผล่พรวดออกมากับเด็กหนุ่มหน้าผี
คนนี้ใช่ไหม   หมอผีบุญ?” เด็กหนุ่มหุ่นสมบูรณ์หันมาถามต้น  เพราะยังไม่เคยรู้จักเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน
ใช่ต้นพยักหน้ารับ  คนนี้แหละ!
งั้นก็สวยน่ะซี….ช่วยกันจับมันไว้เลย   เร็วเข้าพี่ต้น!
ด้วยความรู้สึกชิงชังหมอผีเฒ่าจนเข้ากระดูกดำ  ปื๊ดถือฆ้อนวิ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ซ  ต้นได้แต่ยืนตะลึง ร้องห้ามไม่ทันเสียแล้ว
อาจารย์...อาจารย์!  มันเอาเราแน่!”     เจ้าอ้นรีบถอยกรูไปยืนข้างหลัง   แต่อาจารย์บุญยังคุมสติมั่นรีบล้วงมือลงไปในย่าม  หยิบข้าวสารเสกออกมากำมือ  ซัดโปรยออกไป
กรี๊ดดดด!”    มีเสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วป่าช้า  ทันทีที่ข้าวสารเสกตกกระทบพื้น
สกัดมันเอาไว้  !”   
เสียงอาจารย์บุญร้องสำทับ  และได้รับการตอบสนองในทันทีทันใด  จากสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝัน
พื้นดินรอบๆ ปื๊ดปริแตกออก  พร้อมกับมีมือโผล่พรวดขึ้นมาชูสลอน   ไขว่คว้ายืดจับขาของเด็กหนุ่มเอาไว้เป็นชุลมุน
เหว๋ออะไรกันนี่!?!?”     
ปื๊ดร้องลั่นอย่างตกอกตกใจ  เห็นมือเหล่านั้นเกรอะกรังไปด้วยน้ำเหลืองไหลเยิ้ม ยิ่งหวาดกลัวจนขนหัวลุก   รีบใช้ฆ้อนในมือหวดสะเปะสะปะอย่างรู้สึกขยะแขยง
ปล่อยนะ !   ปล่อย…..ปล่อย!”    เศษเนื้อกระจุยกระจายเมื่อถูกฆ้อนหวดกระหน่ำ เลือดปนน้ำเหลืองสาดกระจาย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งน่าสะอิดสะเอียน  แต่มือเหล่านั้นยังคงโผล่ขึ้นมายึดจับขาของปื๊ดเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ฮะฮะฮะฮ่า  !”   อาจารย์บุญหัวเราะร่าชอบใจ  เก่งนักหรือมึง  กูอยากรู้เหมือนกันว่า  มึงจะทำอะไรกูได้….ฮะฮะฮะฮ่า!
ช่วยด้วย !  ช่วยด้วย !
เสียงร้องของปื๊ดทำให้ต้นได้สติ   ชายหนุ่มหันรีหันขวาง  เห็นท่อนไม้ขนาดเท่าแขนซุกอยู่ในพงหญ้าใกล้ๆ รีบคว้าขึ้นมาทันที
รอเดี๋ยวนะปื๊ด   รอเดี๋ยว !”  
ชายหนุ่มกระโจนพรวดเข้าไปหาปื๊ด  แล้วใช้ท่อนไม้ในมือหวดกระหน่ำลงไปที่แขนที่ยื่นออกมาจากพื้นดิน
 ได้ผล  มือผีเหล่านั้นถูกต้น หวดกระจุยกระจาย ยอมไปปล่อยขาของปื๊ดให้เป็นอิสระ
หนีเร็วปื๊ด ไป!” 
 เขากระชากแขนเด็กหนุ่มให้ถอยกลับออกมา  ก่อนที่จะโดนมือเหล่านั้นคว้าจับเอาไว้ได้อีก
จากนั้นจึงพาวิ่งกลับไปหาตุ่ม  ซึ่งกำลังยืนตัวสั่นงันงกอยู่
ไปเร็วยัยตุ่มรีบไป!
รู้ดีว่าไม่อาจสู้กับหมอผีผู้มีวิชาอาคมได้แน่  ต้นจึงพาตุ่มกับปื๊ดวิ่งหนีหายเข้าไปในดงไม้หลังป่าช้าไม่มีเวลาที่จะเอารถมอเตอร์ไซด์ของปื๊ดมาด้วย   ต้องปล่อยทิ้งเอาไว้ก่อน
พวกมึงหนีกูไปไม่พ้นหรอก!”    หมอผีเฒ่าคำรามลั่น   ยกมือขึ้นพนมโอมอ่านคาถาแล้วเสกเป่าออกไป
พื้นดินพลันปั่นป่วนไปหมด  ซากศพหลายตนทะลึ่งพรวดโผล่ขึ้นมา   นับว่าวิชาอาคมของอาจารย์บุญสูงส่งอยู่มิใช่น้อย  จึงสามารถปลุกผีขึ้นมาจากหลุมศพกลางวันแสกๆ ได้
ตามมันไป….จับตัวพวกมันกลับมาให้หมดทุกคน!
พอได้รับคำสั่งจากหมอผีเฒ่า  ซากศพเหล่านั้นจึงขยับเคลื่อนไหว  พากันเดินลับหายเข้าไปในดงไม้
ถึงเจ้าอ้นจะเป็นศิษย์หมอผี  แต่เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้  สร้างความขนพองสยองเกล้าให้กับมันยิ่งนักที่ได้เห็น
อาจารย์อาจารย์คิดจะทำอะไรน่ะ?”
ฆ่าพวกมันให้หมดทุกคนน่ะซีวะ!
แต่อาจารย์รับปากกับคุณแตนไว้นะ  ว่าจะไม่ทำอะไรพวกมัน”   เด็กหนุ่มหน้าผีแย้ง
ไอ้เซ่อ….ขีนปล่อยพวกมันทิ้งไว้   มันต้องหาทางกลับมาเล่นงานเราน่ะซีวะ มึงอยู่เฉยๆ เหอะไม่ต้องเสือก  !
ดุด่าลูกศิษย์แล้วหมอผีเฒ่าจึงทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิ  ทำให้เจ้าอ้นต้องหุบปากเงียบ  ไม่กล้าโต้แย้งใดๆอีกต่อไป   เสียงอาจารย์บุญว่าคาถาพึมพำอยู่ครู่หนึ่งแล้วลืมตาขึ้นมา
หาพวกมันให้เจอ…..อย่าปล่อยให้มันหนีรอดไปได้!

                               **********
       ฝูงนกแตกตื่นบินหนีกระเจิง  เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งแหวกพงไม้มา  ต้น ตุ่มและปื๊ดตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างไม่มีจุดหมาย   ขอเพียงไปให้พ้นจากหมอผีเฒ่าก่อนเท่านั้น
ทั้งสามหนีซอกแซกมาตามดงไม้  ไม่นำพากิ่งไม้และพงหนามที่ขีดข่วนตามเนื้อตัว  ความกลัวทำให้ทุกคนวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ว๊ายยยยย!”    เสียงตุ่มหวีดร้อง   เท้าของหล่อนปสะดุดถูกรากไม้  ทำให้ถลาล้มหน้าคว่ำลง
คุณตุ่ม!”  ปื๊ดรีบปราดเข้าไปประคองด้วยความห่วงใย  เป็นยังไงมั่งน่ะ?
ไม่….ไม่เป็นไรหรอก   แต่รู้สึกข้อเท้าจะเจ็บนิดหน่อย
ข้อเท้าคงจะแพลง   มาผมจะช่วยนวดให้”   เด็กหนุ่มลงมือนวดคลึงให้   อย่างไม่มีทีท่านึกรังเกียจ
ตุ่มร้องครางเบาๆหน้าเหยเก  แสดงว่าคงจะบาดเจ็บไม่ใช่น้อย
พักกันสักครู่ก่อนดีกว่านะ   หมอบุญคงไม่ตามเรามาหรอกต้นบอกพร้อมกับนั่งลงข้างๆคนทั้งสอง เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่ต้องวิ่งบุกป่าฝ่าดงมาเหมือนกัน
สักครู่หนึ่ง  ตุ่มจึงรู้สึกค่อยทุเลาความเจ็บปวดลง  หล่อนยื่นมือมาแตะที่ต้นแขนของปื๊ดเบาๆ
พอแล้วล่ะคุณปื๊ด….ตุ่มค่อยยังชั่วแล้ว   ขอบคุณมากค่ะ
เดินไหวแน่นะครับคุณตุ่ม?”   เด็กหนุ่มวางมือจากการบีบนวด  แต่ยังอดห่วงไม่ได้
คิดว่าคงได้ค่ะ  รีบไปจากที่นี่กันเถอะ
คุณน่าจะนั่งพักก่อนนะครับ  เพราะอาจจะต้องเดินกันไปอีกไกล  เวลานี้เราอยู่ที่ไหนไม่รู้
ปื๊ดมองไปรอบๆ  เห็นมีแต่ต้นไม่ใหญ่น้อยเหมือนสวนที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้รกร้าง
นั่นน่ะซีนะ”  ต้นขยับลุกขึ้นยืน  สังเกตสภาพแวดล้อม  อารมณ์ตกใจทำให้เราวิ่งหนีเตลิดมาอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้  แถวนี้บ้านคนสักหลังก็ไม่มี
อย่ามัวมาโอ้เอ้อยู่เลยพี่ต้น   รีบไปกันดีกว่า
 ตุ่มรบเร้า  หล่อนเกาะแขนชายหนุ่มพยุงตัวลุกขึ้นยืนสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
คุณตุ่มกลัวอะไรหรือครับ?”  ปื๊ดถาม
หมอผีบุญน่ะซีคะ  คุณปื๊ดก็เห็นแล้วว่ามันมีวิชาอาคมน่ากลัวมากขนาดไหน  ขืนอยู่ที่นี่ไม่ดีแน่อาจจะโดนมันเสกอะไรมาเล่นงานเราอีก
       ความกลัวของตุ่มเป็นความจริง  มีเสียงย่ำใบไม้สวบสาบดังขึ้น พอต้นหันกลับไปมองเห็นซากศพที่อาจารย์บุญปลุกขึ้นมาจากหลุม  เดินโผล่ออกมาจากดงไม้มายืนหน้าสลอน
ว๊าย….ช่วยด้วย!”   
เสียงหวีดร้องของตุ่มดังลั่น  ต้นรีบหันควับ  เห็นซากอสุรยื่นมือจากหลังต้นไม้  คว้าหมับเข้าที่ต้นคอหล่อน
ช่วยด้วย!   ว๊าย...ช่วยด้วย !”     หญิงสาวดิ้นขลุกขลักตาเหลือกลาน   พยายามจะแกะมือเจ้าซากศพนั้นออกจากคอ
ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ   ไอ้ผีบ้า !”   ปื๊ดตรงเข้ากระชากแขนของมันสุดแรง  จนหลุดกระเด็นติดมือมา  เด็กหนุ่มรีบโยนทิ้งด้วยความขยะแขยง  แล้วรีบฉุดแขนตุ่มถอยห่างออกมา
เจ้าซากศพซึ่งยังเหลือแขนอีกข้าง   ยื่นมือเดินทื่อเข้าใส่ตามติดเข้ามา  หมายจะไขว่คว้าตัวตุ่มเอาไว้อีก
แต่ถูกปื๊ดคว้าข้อมือของมันสกัดเอาไว้ก่อน
เด็กหนุ่มออกแรงบิดแล้วกระชากอย่างเต็มที่  แขนเจ้าซากศพฉีกหลุดจากร่างในทันทีมันเลยได้แต่ยืนเซ่อ ไม่มีปัญญาจะทำอะไร  เพราะไร้แขนหมดแล้วทั้งสองข้าง
หนีเร็วปื๊ดตุ่ม!
 เสียงต้นตะโกนบอก ปื๊ดรีบโยนมือผีทิ้งไป  จูงมือตุ่มออกวิ่งตามหลังต้นมาติดๆ
แต่แล้ว  ต่างต้องพากันชะงักพรืด  เพราะที่เบื้องหน้ามีซากศพสามสี่ตน  โผล่พรวดจากหลังต้นไม้ออกมายืนขวางหน้าไว้
ทางหนีถูกปิดล้อมไว้หมดเสียแล้ว   ไปข้างหน้าไม่ได้ถอยหลังก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน
สู้มันปื๊ด….เอาเลย !”  
เมื่อจนตรอกแล้ว จะมัวงอมืองอตีนรอคอยความตายอยู่ไม่ได้   แม้แต่สุนัขมันยังฮึดสู้  ต้นคว้าท่อนไม้ขึ้นมากระโจนเข้าใส่เหล่าอสูรที่ยืนขวางหน้า  เปิดฉากหวดตีอุตลุด
ซากศพตนแรกถูกฟาดผวากระเด็นไป   อีกตนฮึดเข้ามาถูกต้นตีหงายไปเช่นกัน
ปื๊ดรีบคว้าไม้วิ่งเข้ามาช่วย  หวดซ้ายป่ายขวาเป็นพัลวัน  จนซากศพเหล้านั้นแตกฮือออกไป  ทว่า  พวกมันยังคงหนุนเนื่องเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย   ตนหนึ่งถูกตีล้มลง  อีกตนหนึ่งจะเข้ามาแทนที่ จนในที่สุด  น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ  ต้นปื๊ดและตุ่มถูกพวกซากศพรุมจับตัวเอาไว้ได้
พวกมันช่วยกันฉุดกระชากลากถูกคนทั้งสาม  จะนำตัวกลับไปตามคำสั่งของอาจารย์บุญ
ปล่อยนะ ปล่อยปล่อย!
ทุกคนต่างพยายามดิ้นรนอย่างสุดฤทธิ์  แต่ไม่เกิดผลอะไร       
ทันใดนั้น   มีแสงสีเหลืองสว่างวางขึ้นมา แผ่กระจายไปทั่วบริเวณนั้น  เหล่าซากศพต่างพากันหวีดร้องโหยหวน   ดิ้นรนทุรายด้วยอาการเจ็บปวดแสนสาหัส  และล้มกลิ้งลงกับพื้นระเนระนาด
ชั่วไม่ถึงอึดใจ   ซากศพเหล่านั้นพลันกลายเป็นเศษธุลีไป    
ทุกคนรู้สึกแปลกใจที่ทำไมถึงได้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น   พอหายตกตะลึงต่างพากันหันไปมอง  เห็นพระธุดงค์ชราถือกลด  ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยอาการอันสงบ







                                   
                                   





                                   
                                          


                                   
                                   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น