วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560

เตียงนางไม้ ตอนที่ 46

๔๖                       คุณวนายังไม่กลับมาอีกหรือ?” ต้นถามขึ้น  เมื่อกลับมาถึงห้องพักกับปื๊ดแล้วเจอแต่ตุ่มอยู่คนเดียว            “ยังนี่คะ เห็นบอกว่าจะไปตามพี่ต้น ไม่ได้มาพร้อมกันหรอกหรือ?”
            “เปล่า
            ชายหนุ่มสั่นหน้า เดินไปนั่งลงที่โซฟารับแขกอย่างหงออยๆ สีหน้าดูเป็นกังวลเอามากๆเลยทำให้ตุ่มสงสัย            “เกิดอะไรกันขึ้นล่ะเนี่ย?”
            “พี่ต้นทะเลาะกับคุณวนามาปื๊ดบอก
            “คุณวนาไปเห็นพี่ต้นอยู่กับแม่อรอนงค์นั่น เลยโมโหใหญ่
            “อ้าว,ทำไมล่ะ พี่ต้นไปทำรุ่มร่ามอะไรให้คุณวนาเห็นเหรอ?”
            “พี่ต้นไม่ได้เป็นคนทำ แต่แม่นั่นแหละที่เป็นคนยั่วยวน ปลุกปล้ำทำมิดีมิร้ายกับพี่ต้น
            “ต๊าย! ผู้หญิงอะไร ใจกล้าหน้าด้านชะมัด   อย่างงี้นี่เอง มิน่าล่ะยัยแตนถึงต้องคอยตามคุมแจ
            หลุดปากออกไปแล้ว เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ควรพูดถึงแตน ต่อหน้าต้นในเวลานี้  ตุ่มแทบอยากจะตบปากตัวเอง  ที่เผลอพูดออกมาแบบนั้น            “ออกไปข้างนอกกันดีกว่าคุณตุ่ม อย่ากวนใจพี่ต้นเลยปื๊ดชวน เพราะรู้ดีว่านางไม้สาวต้องอยู่ในห้องนี้แน่ เพียงแต่ยังไม่ยอมปรากฎตัวออกมาให้เห็นเท่านั้น จึงอยากให้ต้นปรับความเข้าใจกับหล่อนตามลำพัง            เด็กสาวหุ่นจ้ำม่ำพยักหน้าเห็นด้วย พากันเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ แล้วปิดประตู ทิ้งต้นให้นั่งจมอยู่บนโซฟาคนเดียว            เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่ๆ ในห้องมีแต่ความเงียบจนน่าอึดอัด ชายหนุ่มถอนหายใจยาวออกมา คิดไม่ตกว่าจะพูดอย่างไรกับวนา  หล่อนถึงจะยอมยกโทษให้เขา            เห็นทีจะต้องสารภาพความจริงทั้งหมดกับหล่อน จะปล่อยให้เจ้าใจผิดแบบนี้ต่อไปไม่ได้            “ออกมาเถดครับคุณวนา ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ตัดสินใจลุกขึ้นยืน ส่งเสียงเรียกออกไป  ผมมีเรื่องต้องพูดกับคุณ            ไม่มีเสียงตอบ  หล่อนอาจจะไม่ได้กลับมาที่ห้อง หรือไม่ก็ยังไม่หายโกรธเขา
            “ได้โปรดเถอะครับคุณวนา โปรดฟังผมก่อน  คุณกำลังเข้าใจผมผิดโดยไม่ยอมรับฟังเหตุผลบ้างเลย
            นางไม้สาวปรากฎตัวขึ้น นั่งกอดอกอยู่บนเตียงสีหน้าเรียบเฉย            “ผมรู้ตัวว่าทำให้คุณไม่พอใจ แต่ทั้งหมดนี้มันเกิดจากความจำเป็น ผมโดนบีบบังคับจนไม่มีทางเลือกต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากคุณอรอนงค์  ทั้งๆที่ไม่อยากจะไปเลยจริงๆ            “นี่น่ะหรือคะ ข้อแก้ตัวของคุณต้น มันฟังไม่ขึ้นหรอกค่ะ
            “โปรดเชื่อผมเถอะครับ ทุกอย่างที่ผมพูดมาเป็นความจริงบอกแล้วทรุดตัวลงนั่งตามเดิม   สีหน้าเต็มไปด้วยความหนักอกหนักใจ  มันอาจจะฟังดูมันเหลือเชื่อ  แต่คุณวนาคงไม่รู้หรอกว่า  ผมกำลังถูกเพ่งเล็งหาเหตุไล่ออกจากงาน
            หยุดพูดเพื่อสังเกตอากัปกิริยาของผู้ฟัง  เห็นหล่อนยังคงมีท่าทางที่เฉยเมย            “ผู้จัดการของผม แกไม่ชอบขี้หน้าผมมานานแล้ว เลยแกล้งหางานที่ยากๆ ให้ทำ ตั้งข้อแม้ไว้ด้วยว่า  ถ้าผมทำไม่ได้จะต้องพิจารณาตัวเองลาออก  ผมจึงพยายามที่จะทำให้มันสำเร็จ
            “เพื่องาน คุณต้นถึงกับยอมทำทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ได้ให้สัญญากับวนาเอาไว้แล้ว อย่างงั้นเหรอคะ?”
            “ผมไม่เคยคิดจะผิดคำสัญญากับคุณเลย  ทีแรกผมตัดสินใจจะยื่นใบลาออกเสียด้วยซ้ำไป  เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีทางทำงานชิ้นนี้ได้สำเร็จ  แต่เพื่อนที่ทำงานเป็นคนแนะนำให้ผมสู้ต่อไปอย่ายอมแพ้  จนกว่าจะถึงที่สุดแล้ว ผมจึงต้องไปหาคุณอรอนงค์ คิดว่าจะขอร้องเธอให้ช่วย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา            “ไม่ใช่คุณต้นเป็นฝ่ายเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับเธอหรอกหรือ?”
            “เปล่าจริงๆ นะครับ ผมก็มีศักดิ์ศรีของผมพอที่จะไม่ทำอย่างนั้นแน่ เชื่อผมเถอะครับคุณวนา
            “จะให้วนาเชื่อ คุณต้นต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้เสียก่อน ไม่งั้นแล้ววนาจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย
            พูดจบ นางไม้สาวก็หายตัวไป  ไม่ยอมอยู่ฟังคำแก้ตัวใดๆ อีก                        ************            “ตุ่มว่า พี่ต้นต้องชอบคุณวนาแหง๋เลย”     
            หญิงสาวเปรยออกมา  เมื่อปื๊ดพาหล่อนลงมานั่งลงที่ม้าหินข้างสนามหญ้าหน้าอพาร์ตเม้นท์เรียบร้อยแล้ว
            “คงงั้นมั้งครับคุณตุ่ม เพราะรู้สึกว่าพี่ต้นจะแคร์คุณวนาเสียเหลือเกิน
            “แปลกจังเลยนะ คนกับผีไม่รู้รักกันเข้าไปได้ยังไง?”
            “แต่คุณวนาเขาไม่ใช่ผีธรรมดานะ แล้วอีกอย่างเขาก็น่ารัก มีน้ำใจโอบอ้อมอารี อาจเป็นเพราะสาเหตุนี่ล่ะมั้งที่ทำให้พี่ต้นเกิดรักคุณวนาขึ้นมา            “ฮื่อตุ่มพยักหน้ารับเห็นพ้องด้วย คุณวนาเธอน่ารักจริงๆ อย่างที่ปื๊ดว่านั่นแหละ  นี่คงโกรธพี่ต้นมากเลยซี เมื่อรู้ว่าไปมีอะไรๆ กับคุณอรอนงค์            “พี่ต้นไม่ควรไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนั้นเลยนี่นา
            “ความจริงพี่ต้นไม่ใช่คนมีนิสัยเจ้าชู้หรอกค่ะ  ตุ่มรู้ดีน่าจะเป็นเพราะถูกผู้หญิงคนนั้นยั่วยวนอย่างที่คุณปื๊ดบอกมากกว่า            “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเตี่ยผมคนเดียวแท้ๆ  น่าจะเซ็นสัญญาให้พี่ต้นไปเสียก็หมดเรื่อง  ไม่รู้ทำไมถึงต้องให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย  ผมจนปัญญาที่จะช่วยพี่ต้นแล้วจริงๆ            ปื๊ดปรารภอย่างหนักอกหนักใจ  แต่ตุ่มกลับไม่คิดเช่นนั้น            “มีซี่….คุณปื๊ดยังพอมีทางช่วยพี่ต้นอยู่
            “หมายความว่ายังไง?”
            “คุณปื๊ดเคยบอกกับตุ่มว่า  เตี่ยกลัวแม่นักไม่ใช่เหรอ  ทำไมไม่ลองพูดกับแม่ขอให้ช่วย
พี่ต้นล่ะ?”
            “เป็นความคิดที่เข้าที่ดีนี่ จริงซีครับคุณตุ่ม  แหม,คุณนี่ช่างหัวไบร์จริงๆ!”
                        *************            คุณนายลิ้นจี่กุลีกุจอให้การต้อนรับเพื่อนของลูกชายเป็นอย่างดี  เมื่อปื๊ดพามาแนะนำให้รู้จักกัน            “ต๊ายตายหนูตุ่มอุ๊ย, ตุ่ยนุ้ยน่ารักจริงๆ  เชิญค่ะเชิญ
            หล่อนชอบคนเจ้าเนื้อสมบูรณ์อยู่แล้ว จึงรู้สึกถูกชะตาทันทีที่ได้เห็นหน้า จูงไม้จูงมือไปนั่งในห้องรับแขกสั่งคนรับใช้หาน้ำหาท่ามาต้อนรับ            “หิวหรือยังจ๊ะหนูป้าจะสั่งให้คนหาขนมของว่างมาให้ทานนะจ๊ะ
            “ยังหรอกคุณป้า ขอบคุณค่ะ
            “งั้นเย็นนี้ต้องอยู่ทานข้าวด้วยกันที่นี่ก่อน แล้วค่อยกลับนะจ๊ะ
            เป็นห่วงอยู่อย่างเดียวคือเรื่องกิน พยายามจะขะยั้นคะยอให้เด็กสาวอยู่กินข้าวเป็นเพื่อน            “โธ่, แม่ก้อ….เรามาธุระแค่นั้นเอง  เดี๋ยวก็กลับกันแล้ว”  ปื๊ดแย้งขึ้นมา            “อะไรกันวะ นานๆ มึงจะกลับมาให้กูเห็นหน้าที อยู่กินข้าวกับแม่ของมึงสักมื้อไม่ได้เลยหรือไงวะไอ้ปื๊ด! ”อารมณ์กำลังดีๆอยู่  เปลี่ยนเป็นโมโหฉุนเฉียวขึ้นมาในทันที            “อย่าไปขัดใจคุณแม่เลยค่ะคุณปื๊ด อยู่ทานข้าวกันก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้นะคะ”  ตุ่มต้องรีบแก้ไขสถานการณ์            “อุ้ย, ดีจัง”   คุณนายลิ้นจี่ค่อยยิ้มออกมาได้ หนูอยากทานอะไรมั่งล่ะ บอกมาเลย ป้าจะสั่งให้แม่ครัวทำมาให้?”
            “อะไรก็ได้ค่ะคุณป้า หนูทานได้ทั้งนั้น
            “งั้นเดี๋ยวป้าจะสั่งให้เขาจัดเตรียมอาหารพิเศษสำหรับต้อนรับหนูโดยเฉพาะเลยทีเดียว บอกอย่างดีอกดีใจแล้วหันไปทางลูกหัวแก้วหัวแหวน “เมื่อกี้มึงบอกว่ามาธุระ  มึงมีธุระอะไรวะไอ้ตี๋?”
            “แม่จำพี่ต้น  เพื่อนของผมได้หรือเปล่า?”
            เด็กหนุ่มย้อนถาม  รู้สึกเคืองแม่อยู่ในใจนิดๆ ที่เรียกว่าไอ้ตี๋ต่อหน้าเพื่อนสาว            “จำได้ซี่….เด็กคนนี้นิสัยดีเรียบร้อย  ทำไมกูจะจำไม่ได้
            “เขากำลังลำบาก อยากจะให้แม่ช่วยเขาหน่อย
            “จะให้กูช่วยอะไร  ไหนมึงลองบอกมาซิ?”
            “คืออย่างงี้นะแม่  พี่ต้นเขาทำงานอยู่บริษัทประกันแม่รู้อยู่แล้วใช่มั้ย ทีนี้เขาไปขอประกันกับเตี่ย  ซึ่งเดิมทีเตี่ยก็ประกันโรงงานกับบริษัทของพี่ต้นอยู่แล้ว  แต่ยังไม่ได้ต่อสัญญากรมธรรม์   แทนที่เตี่ยจะเซ็นสัญญาให้ แม่รู้มั้ยว่าเตี่ยกลับโยนเรื่องไปให้ใคร?”
            “กูจะไปรู้มันเหรอ
            “ยัยอรอนงค์
            “ห๊าจริงหรือวะไอ้ตี๋?” ได้ยินชื่อนี้ถึงกับตาลุกวาว  ชิงชังยิงกว่าอะไรทั้งหมด
            “จริวค่ะคุณป้า”   ตุ่มช่วยพูดสนับสนุน พี่ต้นกำลังลำบากมาก คุณอรอนงค์พยายามดึงเรื่อเอาไว้เป็นข้อต่อรองกับพี่ต้น  เพราะรู้ว่า ถ้าพี่ต้นไม่ได้สัญญาฉบับนี้ไปให้เจ้านาย เขาจะต้องถูกไล่ออกค่ะคุณป้า
             “อีนังนั่นมันจะทำอย่างงั้นไปทำไม?” คุณนายลิ้นจี่แสดงอาการข้องใจ
            “มันอยากได้พี่ต้นเป็นผัวน่ะแม่ปื๊ดพูดอย่างหยาบๆ            “ต๊ายหน้าด้านสิ้นดี !” หญิงสูงวัยกลางคนบอกผาง ผู้หญิงอะไรร่านผู้ชายซะไม่มี นี่น่ะเหรอเมียน้อยที่เตี่ยมึงหลงรักหัวปักปัวปำ...เช๊อะ!”
            “พี่ต้นเขามีคนรักอยู่แล้ว  ไม่ได้สนใจคุณอรอนงค์หรอกคุณป้าตุ่มบอกช่วยหน่อยเถอะนะคะ  ถ้าไม่ได้งานชิ้นนี้พี่ต้นมีหวังแย่แน่เลย            “แม่ต้องช่วยเขานะ  พี่ต้นนี่แหละที่ช่วยพูดให้อีนังนั่นมันยอมเลิกยุ่งเกี่ยวกับเตี่ย  แล้วมันก็เกิดไปชอบเขาแทน   ถ้าแม่ไม่ช่วยมีหวังยุ่งตายห่า”  ปื๊ดยกความดีของชายหนุ่มขึ้นมาอ้าง เพื่อขอความเห็นใจจากแม่            “แล้วมึงจะให้กูช่วยยังไงวะ?”
            “บีบบังคับให้เตี่ยยอมเซ็นสัญญา  แค่นี้ทุกอย่างก็จบ
            “ได้ซี่คนดีๆ  กูต้องช่วยแน่นอน  พรุ่งนี้ตอนสายๆ กูจะเอาเตี่ยมึงไปทำสัญญากันถึงที่บริษัทเลย  มึงไม่ต้องห่วง
            “จริงๆนะแม่?” ปื๊ดย้ำเพื่อความแน่ใจ
            “จริงซีวะไอ้ตี๋
            “แหม,ดีจังเลยขอบคุณมากค่ะคุณป้า
            ตุ่มรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก  รีบประนมมือก้มกราบงามๆ ลงบนตักของผู้หญิงสูงอายุ                        ************            เพราะอยากให้ต้นแปลกใจ ปื๊ดกับตุ่มจึงเก็บเรื่องนี้ไว้ยังไม่บอกกับชายหนุ่ม  ตอนเช้าเมื่อต้นไปทำงานได้สักพักใหญ่ๆ  ทั้งคู่จึงโผล่ไปหาถึงที่ทำงาน            “อ้าว, จะไปไหนกันแต่เช้าเชียว?”
            “มาหาพี่ต้นนั่นแหละ  มีข่าวจะมาบอก”   ตุ่มยิ้มหน้าระรื่น            “ข่าวดีอะไรเหรอเมื่อวานต้องขอโทษด้วยนะ  ใจมันมัวพะวงแต่งานเลยลืมเสียสนิท  ทำให้อดไปเที่ยวกัน
            “เรื่องนั้นช่างมันเถอะนะพี่ต้น  เอาไว้เสร็จงานก่อนแล้วค่อยฉลองกันก็ได้”  ปื๊ดบอก            “เอ๊ะ,งานอะไรกันหรือ?” ต้นย่นหัวคิ้ว   มองหน้าคนทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ
            “เรื่องสัญญาของพี่ต้นยังไงล่ะคะตุ่มเป็นคนบอกแทนปื๊ด สบายใจได้แล้วล่ะพี่ต้น  วันนี้เตี่ยของคุณปื๊ดจะมาเซ็นสัญญาที่นี่            “ฮ้า, จริงเหรอ?”  ชายหนุ่มอุทานเสียงดัง แทบไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง
            “ชัวร์เด๊ะเลยพี่ต้นเด็กหนุ่มรับรองด้วยความภูมิใจ ยืดอกอย่างเต็มที่  ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวแม่จะพาเตี่ยมาที่นี่
            “ขอบใจมากเลยปื๊ด ของใจจริงๆ!” ต้นจับมือเด็กหนุ่มเขย่าอย่างดีใจ ปื๊ดไปทำยังไงเตี่ยถึงยอมมาเซ็นสัญญาง่ายๆ
            “อาศัยบารมีแม่น่ะพี่ต้น เป็นความคิดของคุณตุ่มเขา ชวนไปขอความช่วยเหลือจากแม่   พี่ต้นจะได้ไม่ต้องไปง้อยัยอรอนงค์นั่นอีก
            ได้ยินปื๊ดบอกเช่นนั้น  ต้นรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกในความห่วงใยของเพื่อนรุ่นน้องทั้งสองคนที่มีต่อเขา            เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้  เขาก็หมดห่วงเรื่องงาน และวนาคงจะเข้าใจเขาดีในไม่ช้า  เมื่อไม่ต้องไปข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับอรอนงค์อีก            แต่ดูเหมือนเรื่องราวยังจะไม่จบง่ายๆ ขณะที่ทุกคนกำลังรอการมาของคุณนายลิ้นจี่และเสี่ยกำชัยอย่างใจจดใจจ่อ  คนที่ไม่มีใครอยากพบก็เดินออกมาจากลิฟท์            อรอนงค์นั่นเอง            พอเห็นต้นเข้าเท่านั้น  หล่อนรีบย้ายสะโพกเดินลิ่วเข้ามาหา  โผกอดอย่างไม่แคร์สายตาใคร            “คุณต้นขาเมื่อวานอยู่ดีๆ ทำไมต้องหนีอรไปด้วยคะ  แหม,ไม่อยากเชียวปล่อยให้อรต้องนอนเหงาคอยเก้อคนอะไรไม่รู้ใจด้ำดำ!”
            “เอ้อบังเอิญผมมีธุระด่วนน่ะครับ  ต้องขอโทษด้วย
            “ไม่ยอมล่ะ คุณต้นทำให้อรอารมณ์ค้าง วันนี้ต้องถูกทำโทษ  อรจะไม่ยอมให้พี่ต้นหนีอรไปอีก  คอยดูซี่!”
            จีบปากจีบคอใส่จริตจก้านแพรวพราว  จนปื๊ดรู้สึกหมั่นไส้ทนฟังต่อไปไม่ไหว            “นี่ๆ เจ๊ที่นี่มันที่ทำงานนะไม่ใช่ผับ  หัดรู้จักเกรงใจคนอื่นมั้งซี่
            “ทำไมแล้วมันไปหนักหัวกะบาลแกเหรอ?”  หล่อนมองปื๊ดตาขวาง
            “เปล่าแต่มันทุเรศว่ะ!”
            “ต๊าย,ไอ้เด็กปากเสีย!”  ได้ผล หล่อนเต้นเร่าๆ เป็นเจ้าเข้า “มันเรื่องของฉันกับคุณต้น  คนอื่นไม่ต้องมาเสือก”            “ไอ้ผมน่ะไม่อยากจะเสือกหรอก  แต่บังเอิญคุณเองนั่นแหละที่แส่มาทำลายครอบครัวของผมก่อน  แล้วยังคิดจะทำลายพี่ต้นอีกด้วย   ผมยอมให้ไม่ได้เลยต้องขอเสือกหน่อย!”
            คำพูดของปื๊ดทำให้หญิงสาวเกิดเอะใจหยุดคิด  ดูเหมือนจะเคยเห็นหน้าเด็กหนุ่มคนนี้ที่ไหนมาก่อน            “อ๋อ,ที่แท้แกก็คือลูกของเสี่ยนั่นเอง นึกว่าใคร
            “ใช่แล้วเจ๊รีบไปให้พ้นๆ เลย ที่นี่ไม่มีใครอยากเขาเห็นหน้าเจ๊หรอก
            “เช๊อะ,ไอ้เด็กเมื่อวานซืน  แกมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน  คุณต้นเขาไม่ใช่เตี่ยของแกนะ  ถึงได้ต้องเดือกร้อนแทนด้วย!”            “พี่ต้นเป็นเพื่อนของผมคนหนึ่ง  ผมไม่ยอมให้คุณมาหลอกเขา  เหมือนที่ทำกับเตี่ยผมแน่ !”
            “ใครบอกล่ะยะว่าฉันจะหลอกคุณต้น  ฉันจะมาช่วยเขาต่างหากย่ะไปกันเถอะค่ะคุณต้น
            ตัดความรำคาญ  ฉุดรั้งแขนชายหนุ่มจะให้ไปด้วย เพราะขี้เกียจต่อปากคำกับปื๊ดอีก  แต่ต้นกลับสั่นหน้า            “ไม่หรอกครับ ผมยังมีงานต้องทำ ไปไหนไม่ได้จริงๆ ต้องขอโทษด้วย
            “เถอะน่าคุณต้นไปกับอรก็เหมือนกับไปทำธุระให้บริษัท จริงมั้ยล่ะคะ?”   หล่อนคะยั้นคะยอ
            “เสียใจด้วยครับ ผมไปไม่ได้จริงๆคุณอรอนงค์
            “แล้วเรื่องสัญญาประกันล่ะคะ จะเอายังไง?” หญิงสาวชักเคืองที่ถูกขัดใจ ยกเอาเรื่องงานขึ้นมาอ้างหวังจะใช้เป็นเครื่องต่อรอง ให้ต้นต้องยอมทำตามหล่อน
            “ขอบคุณที่คิดจะช่วยเหลือผม  แต่ผมไม่รบกวนคุณอรอนงค์อีกต่อไปแล้วล่ะครับ
            “แน่ใจหรือคะคุณต้น?”   ตะลึงไปเลยเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินต้นพูดออกมาเช่นนี้            “ครับชายหนุ่มตอบรับคำเดียวสั้นๆ            “ได้ยินชัดหรือยังคะ ที่นี่เขาไม่มีใครต้อนรับคุณหรอกค่ะตุ่มยิ้มเยาะ เมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มหน้าถอดสี            “ดีล่ะแล้วพวกแกจะต้องเสียใจ  คอยดู!”
            หล่อนขู่อาฆาตแล้วรีบสะบัดหน้า  เดินผละไปอย่างไม่พอใจ นึกไม่ถึงว่าต้นจะกล้าปฏิเสธ            อารมณ์โมโหทำให้หล่อนก้าวเดินฉับๆไม่”โดูตาม้าตาเรือ ฌ,ญชนเข้าอย่างจังกับมานพ  ซึ่งกำลังเดินออกมาจากลิฟท์พอดี            “อ้าว หนูอร จะรีบร้อนไปไหนล่ะ?”
            “อุ๊ยตาย,ขอโทษค่ะป๋าอรกำลังโมโหเลยไม่ทันมอง ขอโทษจริงๆค่ะ!”
            “ไปโมโหใครมาหรือจ๊ะหนู?”
            “ลูกน้องของป๋าน่ะซีคะ อรมาติดต่อธุระเรื่องประกัน ยังทำเล่นตัวอีก
            ฟ้องฉอดๆ  พร้อมกับมองค้อนขวับไปที่ต้น  มานพเหลือบตามองนิดหนึ่ง ชักอยากรู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร รีบเอามือโอบไหล่ของหญิงสาว            “ไปคุยกันที่ห้องป๋าดีกว่านะจ๊ะหนูอร
     

วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2560

เตียงนางไม้ ตอนที่ 45

๔๕….

            ในห้องชุดสุดหรูหราของอรอนงค์   เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ  แต่ต้นกลับรู้สึกร้อนรุ่มจนเหงื่อกาฬแตกพลั่ก
            จะไม่ให้เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง   ในเมื่อหญิงสาวเจ้าของห้อง  สวมชุดนอนบางๆออกมาต้อนรับเขาโดยที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในเลยแม้สักชิ้นเดียว
            ยามเมื่อหล่อนเยื้องกรายไปมา  แทบมองทะลุปรุโปร่งหมดทุกส่วนสัด   เป็นที่วาบหวามอารมณ์แก่ผู้ได้พบเห็นยิ่งนัก
            ชายหนุ่มไม่คิดมาก่อน  ว่าจะมาเจอกับหล่อนในสภาพแบบนี้ ได้แต่ยืนตะลึงตัวชาเกร็งไปหมดทำอะไรไม่ถูกเอาเลยทีเดียว
            เพิ่งจะเห็นอย่างเต็มตา  ว่าหญิงสาวมีเรือนร่างงดงามหมดจุดทุกส่วนสัด  แทบจะมองหาที่ติมิได้ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า
            ผิวพรรณเนียนขาวเต่งตึงไร้รอยตำหนิไฝฝ้า  อกอวบตั้งเต้างามได้รูป  แม้จะมีขนาดใหญ่แต่ก็ไม่คล้อยหย่อนแต่อย่างไร  เอวคอดสะโพกผายท้าทาย  หน้าท้องตึงเรียบรับกับเนินอวบอูม  น่องขาเรียวงามระหง
            น่าลูบไล้สัมผัสไปหมด  ไม่ว่าจะมองตรงจุดไหนยอมรับว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์  ดึงดูดเพศตรงข้ามได้มากมายจริงๆ
            “เชิญตามสบายนะคะ
            มัวแต่ตะลึงมองตาค้าง  มาได้สติเอาอีกทีเมื่อเจ้าของบ้านเอ่ยเชื้อเชิญให้นั่ง  หาน้ำท่ามาเสริฟ เพิ่งมาถึงเหนื่อยๆ  ทานน้ำเย็นก่อนเถอะค่ะ
            “ขอบคุณครับ
            ชายหนุ่มรับมาดื่มอั่กๆ  รวดเดียวเกือบหมดแก้วเหมือนรู้สึกคอแห้งเสียเต็มประดา   อรอนงค์ยิ้มออกมานิดหนึ่ง  แล้วนั่งลงข้างๆต้นบนโซฟาตัวใหญ่หนานุ่มยกขาขึ้นไขว่ห้าง  มองดูอากัปกิริยาตื่นๆของเขาอย่างนึกขำอยู่ในใจ
            “ คงหิวน้ำมากซีถ้า  อีกแก้วมั้ยคะ?หล่อนแกล้งถามเย้า  ตาเป็นประกายยั่วยวน  กลิ่นหอมจรุงใจอบอวลไปทั้งตัว  เพราะจงใจประพรมน้ำหอมทั่วทั้งเรือนร่าง  หมายเผด็จศึกชายหนุ่มให้อยู่หมัดในวันนี้โดยเฉพาะ
            “ไม่หรอกครับคุณ พอแล้วต้นบอกเสียงแหบแห้ง  ราวกับมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอหอย   พยายามข่มใจอย่างเต็มที่ไม่ให้คิดฟุ้งซ่านหันมองไปทางอื่นเสีย  ไม่กล้าสบตากับหญิงสาว  เพราะกลัวใจจะเตลิดเปิดเปิงฉุดรั้งเอาไว้ไม่อยู่  แล้วมันจะยุ่งกันไปใหญ่
            “ทำไมนั่งนิ่งเงียบไปล่ะคะ ไหนคุณต้นบอกมีธุระจะคุยกับอร?”
            “ เอ้อ...ครับ,  ผมอยากจะมาขอร้องคุณให้ช่วยเหลือผมหน่อย  เกี่ยวกับเรื่องสัญญาประกันของเสี่ยกำชัย
            “อรน่ะไม่ขัดข้องหรอกค่ะ  มันขึ้นอยู่ที่ตัวคุณต้นเท่านั้นเองแหละ
            “ผมกำลังเข้าตาจนจริงๆ  ถ้าทำงานชิ้นนี้ไม่สำเร็จมีหวังต้องถูกไล่ออกจากงานแน่นอน  ช่วยผมหน่อยเถอะครับคุณอรอนงค์
            “แล้วอรจะได้อะไรเป็นการตอบแทนล่ะคะ?”
            “สุดแล้วแต่คุณอนงค์เถอะครับ  จะเรียกร้องค่าป่วยสักเท่าไหร่  ผมยินดีจะหามาให้ตามที่คุณต้องการ
เงินทองอรไม่อยากได้หรอกค่ะ  มีอยู่เยอะถมไปแล้ว   สิ่งที่อรต้องการก็คือตัวคุณต้นนั่นแหละ”  หล่อนบอกออกไปตรงๆอย่างไม่มีอ้อมค้อม  แล้วจับไหล่ชายหนุ่มเผชิญหน้า  ดูให้ดีๆซิคะ  อรน่ะขี้ริ้วขี้เหร่ที่ตรงไหนเหรอ?”
            สายตากระทบถูกปทุมถันงามอวบทั้งคู่เข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ  ทำให้เลือดในกายฉีดแรงไปทั้งร่างจนใบหน้าร้อนผ่าว
            ปลายถันคู่นั้นเป็นสีชมพูเรื่อๆ ชูตั้งท้าทายสายตาชวนให้น่าสัมผัสจับต้องเสียนี่กระไรชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหนี  ละสายตามองไปทางอื่น
            “มะ มะ ไม่หรอกครับ!”  กลายเป็นคนติดอ่างขึ้นมาในทันที กลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกอย่างลำบากยากเข็ญ  คุณอรอนงค์สวยสวยมากทีเดียว ไม่มีที่ติจริงๆ !”
             “แล้วทำไมคุณต้นถึงปฏิเสธข้อเสนอของอรล่ะคะ?”   หล่อนทำเสียงออดอ้อน  ตาชะมดชะม้อยเซ็กซี่ยั่วยวน
            “ไม่ใช่ผมจะรังเกียจอะไรคุณ  เปล่าเลยนะครับ เป็นเพราะว่า  ผมน่ะมีคนรักอยู่แล้วคิดว่า คุณอรอนงค์คงจะเข้าใจผมดี
            “อีนังคนนั้นหรือคะ?”  เสียงหล่อนเปลี่ยนเป็นไม่พอใจขึ้นมาในทันที ปากจัดยังกะกรรไกร เหย่อหยิ่งจองหองดุเหมือนเสือ  ท่าทางเอาเรื่องน่าดูนี่นแบบนี้นะเหรอ  ที่คุณต้นหลับหูหลับตาจะคว้ามาทำเมียเช๊อะ!”
            “เปล่าหรอกนะครับ  ไม่ใช่คุณแตน  คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด”  ต้นรีบปฏิเสธ รู้ดีว่าหล่อนไม่ชอบหน้าแตนถึงกับมีเรื่องตบตีกันในวันนั้น  คนที่ผมรัก  เธอเปรียบเสมือนนางฟ้าเทพธิดา เพียบพร้อมไปด้วยคุณงามความดีจนผมไม่อาจที่จะทรยศต่อเธอได้  แล้วผมก็รักเธอมากเสียด้วย  ผมสัญญากับเธอเอาไว้  ชั่วชีวิตนี้ผมจะรัก แต่เธอคนเดียวเท่านั้น
            “คนที่มีรักเดียวใจเดียวอย่างคุณเนี่ย  หายากจริงนะคะ ทำไมอรถึงไม่ได้เจอผู้ชายดีๆแบบนี้บ้าง”  เปรยออกมาแล้วถอนใจทำตาปรอย
            “สักวันหนึ่งคุณต้องได้เจอแน่ครับ  คุณอรอนงค์  ผู้หญิงที่สวยมีเสน่ห์อย่างคุณ  คงไม่ยากหรอก  ที่จะมีผู้ชายดีๆมารักคุณเข้าสักคน  ผมเชื่ออย่างงั้น
            “ไม่เอาค่ะ  อรรักคุณต้น”  หล่อนสั่นหน้า โผเข้ากอดซบลงบนแผ่นอกของชายหนุ่ม  คุณต้นไม่อยากสัมผัสลูบไล้อรบ้างหรือ   อรมีทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้นต้องการ พร้อมจะให้ความสุขกับคุณต้นได้ทุกเมื่อ
            “อย่าครับคุณอร...ไม่ไม่!”
            ชายหนุ่มรีบชักมือกลับ ใจสั่นหวิวๆเหมือนไข้กำลังขึ้น ไฟราคะเริ่มคุโชนขึ้นเพราะเสน่ห์อันร้อนแรงของหล่อน       
            แค่มองตาก็รู้ถึงความต้องการลึกๆ ในใจ หญิงสาวไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดไป หล่อนลุกขึ้นถอดชุดนอนบางตัวนั้นโยนทิ้งไป   เหลือแต่ร่างเปลือยเปล่าแล้วโถมเข้ากดร่างชายหนุ่ม  เอนราบนอนลงบนโซฟา อย่าปฏิเสธอรเลยนะคะมีความสุขกับอรเถอะค่ะ
            หมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนอีกต่อไป   รู้สึกมือไม้อ่อนปวกเปียกไปหมด  ต้องยอมให้หล่อนทำทุกอย่างตามอำเภอใจอย่างแทบไม่รู้สึกตัว คล้ายๆ กับกำลังจมดิ่งลงสู่ในห้วงแห่งความฝันอันน่าตื่นเต้น
                        ************
            “ที่นี่แหละครับคุณวนา”  ปื๊ดจอดมอเตอร์ไซด์ของเขาตรงลานจอดรถกว้างขวาง แล้วชี้ให้ดูอาคารฟ้าสูงตระหง่าน คุณวนาต้องเข้าไปคนเดียวนะครับ  ผมกับยามที่นี่ไม่ถูกกัน  เคยมีเรื่องกันมาก่อน  เขาคงไม่ยอมให้ผมเข้าไป
            “งั้นปื๊ดคอยอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน วนาจะขึ้นไปดูเอง
            “ระวังหน่อยนะครับ  ยามที่นี่เข้มงวดกวดขันมากไม่ยอมให้คนนอกเข้าออกง่ายๆ
            “ไม่ต้องห่วงหรอกนะ  ไม่มีใครเห็นวนาแน่” 
            หญิงสาวพยักหน้าขึ้นครั้งหนึ่ง  ร่างจึงหายวับไป ต่อหน้าต่อตาเด็กหนุ่ม   ปื๊ดไม่ได้นึกแปลกใจอะไรเลย  เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าหล่อนมีฤทธิ์  สามารถที่จะทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างเหนือคนธรรมดา  จัดแจงขึ้นขาหยั่งมอเตอร์ไซด์ให้เรียบร้อย  แล้วเดินไปนั่งรออยู่ที่ม้าหินใต้ร่มไม้ใหญ่อย่างเงียบๆ
            อดชะเง้อมองไปที่อาคารชุดสูงลิบลิ่วไม่ได้   อยากรู้เหมือนกันว่าเวลานี้ต้นกำลังทำอะไรอยู่
            ยามรักษาความปลอดภัย   ที่กำลังยืนอยู่ใกล้ลิฟท์อดแปลกใจไม่ได้  เมื่อรู้สึกเหมือนมีคนเดินผ่านหน้าไปพร้อมกับมีกลิ่นหอมอ่อนๆ  คล้ายกลิ่นดอกไม้โชยมากระทบจมูก
            ประตูลิฟท์ซึ่งถูกเปิดทิ้งไว้ปิดลง จากนั้นจึงมีสัญญาณไฟแสดงให้เห็นว่า  ตัวลิฟท์กำลังเลื่อนขึ้นสู่ชึ้นบน
            ยามหนุ่มขมวดคิ้วนิดหนึ่ง  ดูเหมือนคล้ายจะมีคนขึ้นลิฟท์ไป แต่ทำไมเขาถึงไม่เห็นอะไรเลย  หรือว่าตัวเองอาจจะยังไม่หายเมาค้าง  หูตาถึงได้ฟั่นเฟือนไป   ตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำ  ล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย คงจะช่วยให้ดีขึ้น
            จะมีใครเห็นได้อย่างไร ในเมื่อเวลานี้วนากำลังหายตัวอยู่   หากมีใครอยู่ในลิฟท์ร่วมกับหล่อนด้วย ในตอนนี้   คงจะเห็นแต่ลิฟท์เปล่าๆ กำลังเลื่อนขึ้นไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กดเลือกชั้น
            ถึงชั้นที่ต้องการตามที่ปื๊ดบอกเอาไว้แล้ว  นางไม้สาวรีบก้าวออกจากลิฟท์  ทันทีที่ประตูเปิดออกแล้วยืนมองไปรอบๆ
            ทางเดินของอาคารชุดที่นี่  ดูกว้างขวางสะอาดตากว่าโฉมศรีอพาร์ตเม้นท์หลายเท่านัก   ฟื้นปูด้วยหินอ่อนโดยตลอด  บรรยากาศดูหรูหรา  แต่สงบเงียบน่าอยู่ดีจริงๆ
            ค่อยๆก้าวเดินอย่างช้าๆ  มองหาเลขห้องของอรอนงค์ไปเรื่อยๆจนเจอ  อยู่เยื้องๆกับลิฟท์นี่เองหาไม่ยากเลย
            ไม่มัวช้ารีรออีกต่อไป  นางไม้สาวก้าวทะลุผ่านประตูห้องเข้าไปทันที  ภาพที่เห็นปรากฎอยู่ตรงหน้าทำให้หล่อนต้องชะงักยืนตกตะลึง
            บนโซฟาตัวใหญ่  ต้นกำลังถูกอรอนงค์กอดจูบซุกไซร้อย่างถึงพริกถึงขิง   เสื้อผ้าของเขา ถูกถอดลงไปกองอยู่ที่พื้น  เหลือแต่กางเกงในตัวเดียว   ส่วนตัวหญิงสาวนั้นไม่ต้องพูดถึง  เปลือยเปล่าล่อนจ้อน  ไม่มีอาภรณ์ปกปิดกายแม้แต่ชิ้นเดียว
            วนาแทบอยากจะกระโจนหนีออกไปจากห้อง  ไม่อาจทนดูภาพอุจาดตานั้นได้  รีบยกมือปิดหน้าแล้วเบือนหนี
            แต่ถึงจะไม่เห็นภาพ  หูก็ยังคงได้ยินเสียงพร่ำพรอดดังมาไม่หยุดหย่อน
            คุณต้นขาอรอรต้องการแล้วน่ะ ช่วยอรหน่อยซีคะ นะคะคุณต้น
            “พอเถอะครัคุณอรอนงค์ ผมผมจะหักห้ามใจเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
            “โธ่ ก็ปล่อยมันไปซิคะ จะฝืนมันไว้ทำไมอรอยากมีความสุขกับคุณต้น อรทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
            หล่อนโถมร่างขึ้นประกบชายหนุ่ม  เบียดแนบชิดจนเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกัน  ซุกไซร้ใบหน้าตามซอกคอและแผ่นอกของเขา  เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้คุโชนมากยิ่งขึ้น
            เสียงชายหนุ่มครางย่างสุดสยิว   บาดหูบาดใจวนายิ่งนัก  สุดที่จะทนนิ่งเฉยอยู่ต่อไปได้
หากไม่รีบทำอะไรลงไปสักอย่าง  ต้นมีหวังเสร็จแม่สาวไฟแรงคนนี้อย่างแน่นอน
            แรงหึงหวงทำให้นางไม้สาวตัดสินใจ  ยกมือขึ้นกอดอกแล้วพยักหน้าขึ้นครั้งหนึ่ง
            ร่างของชายหนุ่มหายวับไปทันที
            “ว๊าย!  ตายแล้วอะไรกันนี่!?!” 
            อรอนงค์สะดุ้งตกใจ  ที่จู่ๆ  ต้นก็หายไป  ปล่อยให้หล่อนหลงฟัดแต่โซฟาเปล่าๆ
                        ************
            ต้นยังอยู่ในอารมณ์เคลิบเคลิ้ม จึงไม่รู้หรอกว่าเวลานี้กำลังมานอนอยู่ข้างริมสระว่ายน้ำมีสุนัขตัวใหญ่สีขาวขนปุกปุยค่อมร่างของเขาอยู่
            เจ้าหมาขนยาวหูตูบมองดูชายหนุ่มอย่างแปลกใจ ที่เห็นเขาหลับหูหลับตาครวญครางงึมงำไม่ได้สรรพ มันก้มลงแลบลิ้นเลียไปตามใบหน้าขอเขา  คล้ายกับจะช่วยปลุกให้เขารู้สึกตัว
            ชักเอะใจที่มีอะไรสากๆมาถูไถตามใบหน้า   ร่างอวบอัดของอรอนงค์ก็ผิดปกติไป  ทำไมขนนิ่มปุกปุยชายหนุ่มรีบลืมตาขึ้นมองทันที
            ใจหายวาบเมื่อเห็นสุนัขตัวใหญ่  กำลังยืนค่อมร่างของเขาอยู่
            “ว๊าย...ตาเถรช่วย! นั่นแกจะทำอะไรหมาชั้นห๊า?”
            เสียงเอะอะเอ็ดตะโรของสาวใหญ่  ซึ่งกำลังนั่งอยู่ริมสระน้ำ ยิ่งพาให้ต้นตกอกตกใจหนักขึ้น  เขารีบลุกพรวดพราดเหลียวซ้ายแลขวาหน้าตาเลิ่กลั่ก   แล้วเผ่นพรวดออกไปจากสระว่ายน้ำ   อย่างรู้สึกอับอายขายหน้าจนบรรยายไม่ถูก
            “กลับมาเดี๋ยวนี้นะ หน๋อยแน่ะ ไอ้คนบ้ากามคิดจะข่มขืนหมาชั้นเร๊อะ?”
            เสียงเจ้าของหมาตะโกนโหวกเหวกตามหลังมา  ต้นโกยอ้าวอย่างไม่ยอมเหลียว เห็นประตูห้องน้ำอยู่ตรงหน้า  รีบเผ่นแว่บหายเข้าไปทันที
            โชคดีที่ในห้องน้ำไม่มีใครอยู่   ชายหนุ่มมองสำรวจตัวเองแล้วนึกสมเพชสิ้นดี  ที่จู่ๆก็มาปรากฎตัวอยูริมสระว่ายน้ำของคอนโด  ในสภาพที่เกือบจะล่อนจ้อนแบบนี้
            แล้วเขาลงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกันล่ะ
            นึกออกแล้ว   ต้องเป็นฝีมือของวนาแน่   ถึงสามารถทำให้เป็นแบบนี้นี้ได้
            “คิก ๆๆ!”          
            เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้น   ชายหนุ่มหันควับไปมองเห็นนางไม้สาวถือเสื้อผ้ารองเท้าของเขายืนอยู่ข้างหลัง ยื่นของทั้งหมดมาให้
            “รีบใส่เสียคุณต้น เดี๋ยวใครเข้ามาเห็นเข้าหรอก
            เขารีบรับมาสวมใส่อย่างลวกๆ รู้สึกอับอายหล่อนจนมองหน้าไม่ติด
            “คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับคุณวนา?”
            “คุณปื๊ดพามา ขอโทษนะที่เข้าไปขัดจังหวะ  ตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี
            “คุณไม่น่าทำแบบนี้กับผมเลยนะต่อว่าอย่างเขินๆ
            “อ๋อ  ใช่ซิ….วนายุ่งไม่เข้าเรื่องเอง  หมูเขาจะหามไม่น่าเอาคานเข้าไปสอด
            “ไม่ใช่อย่างงั้นครับ  ผมหมายถึงทำให้ผมไปปรากฎตัวที่ริมสระว่ายน้ำอย่างงั้นต่างหาก  ประเจิดประเจ้อขายหน้าตายชักเลย
            “คุณต้นอยากใจง่ายทำไมล่ะ   ไหนสัญญากับวนาแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครอีก
            “ผมผมขอโทษ ผมลืมตัวไปจริงๆ
            รีบลนลานงอนง้อ เพราะกลัวหล่อนจะโกรธ
            “ถ้าวนาไม่มาขัดจังหวะ คุณต้นก็คงมีอะไรๆ กับผู้หญิงคนนั้นไปแล้วซีนะ
            “เปล่าหรอกน่า คุณอย่าเข้าใจผิด ผมแค่ลืมตัวไปชั่ววูบเอง
            “วนาไม่เชื่อหรอกหล่อนสะบัดหน้าเดินหนีไปทันที
            “เดี๋ยวก่อนซิครับคุณวนา!”   
            ชายหนุ่มใจหายวาบ รีบก้าวตามติดไป
            “ผมรักคุณวนาคนเดียวจริงๆ ไม่เคยคิดจะนอกใจคุณเลย เชื่อผมเถอะครับ
            “ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว วนาเห็นหมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง แค่นี้คุณต้นก็บังคังใจตัวเองไม่อยู่  แล้วจะให้เชื่อถือได้ยังไงอีก
            “โธ่ฟังผมก่อนเถอะครับคุณวนา
            นางไม้สาวไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใดๆ อีกต่อไป  รีบหายตัววับไปทันที  ปล่อยให้ต้นยืนเซ่ออยู่ที่ตรงนั้น
            “คุณวนา”   
            พอได้สติ   ชายหนุ่มรีบวิ่งพรวดพราดออกจากห้องน้ำ มองหาไปรอบๆ อย่างตกอกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
            “พี่ต้น พี่ต้น!”  
            เสียงปื๊ดตะโกนเรียก ชายหนุ่มหันมอง  เห็นเขาวิ่งตรงมาหา
            “พี่ต้นลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วคุณวนาล่ะ?”
            “เธอไปแล้วบอกด้วยอาการที่หงอยๆ
            “อ้าว...เกิดอะไรขึ้นหรือพี่ต้น?”
            “เธอเข้าไปเห็นพี่อยู่กับคุณอรอนงค์ ท่าทางจะโกรธมากเสียด้วย
            “พี่ต้นไม่น่ามายุ่งกับผู้หญิงพรรค์ยังงี้นี่นา แล้วจะทำยังไงดีล่ะ
            “ยังไม่รู้เหมือนกัน
            “งั้นรีบไปกันเหอะคุณวนาคงจะกลับไปที่ห้องแล้วล่ะ พี่ต้นต้องรีบกลับไปปรับความเข้าใจ กับคุณวนาเดี๋ยวนี้เลย
            เด็กหนุ่มบอกแล้ว  รีบจูงมือเขาพาเดินเร็วรี่กลับไปที่รถมอเตอร์ไซด์