วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เตียงนางไม้ ตอนที่ 4

โดย....เจิด จินตนา
. . .
อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ เป็นวนา


          คืนนั้นทั้งต้น แตนและตุ่มนั่งฟังเพลงในผับที่มีบรรยากาศอันแสนโรแมนติกจนดึก ต้นรู้สึกง่วงนอนจัด จนต้องเป็นฝ่ายออกปากขอตัวกลับก่อน แตนอาสาขับรถไปส่งชายคนรักเพราะอยากรู้จักที่อยู่ใหม่ของเขา โดยมีตุ่มนั่งไปเป็นเพื่อน
          เมื่อถึงอพาร์ตเม้นท์ แตนดึงดันที่จะขอขึ้นไปส่งถึงห้องพัก แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธ
          อย่าเลยนะคุณแตน..นี่ก็ดึกมากแล้ว ใครเห็นเข้าจะน่าเกลียด คุณแตนจะถูกมองไปในแง่ไม่ดี เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ กลับบ้านก่อนเถอะ ป่านนี้คุณพ่อของคุณท่านคงจะเป็นห่วงมากแล้ว…”
          ใครจะว่ายังไงก็ช่าง แตนไม่แคร์…” หญิงสาวยักไหล่ อ๋อ ! หรือว่าพี่ต้นแอบซ่อนใครเอาไว้ในห้องถึงไม่อยากให้แตนขึ้นไปเห็นบอกมานะ
            “เพ้อเจ้อไปได้น่าแตน….” ตุ่มรีบเตือนสติเพื่อนสาว   เธอรู้ดีอยู่แก่ใจนี่นาว่าพี่เขาไม่ใช่เป็นคนแบบนั้น อย่าพูดเป็นเชิงดูหมิ่นน้ำใจพี่ต้นให้เสียบรรยยากาศอีกเลย….กลับหอกันเหอะ !”
            “กลับก็ได้…!”
            หญิงสาวสะบัดเสียง เดินจ้ำอ้าวรี่ไปที่รถ กระชากประตูเปอดผัวะออกมาสุดแรงด้วยอารมณ์อันฉุนเฉียว
            เป็นจังหวะเดียวกับที่ปื๊ดควบมอเตอร์ไซค์ ตีโค้งเข้าประตูมา เด็กหนุ่มร่างสมบูรณ์อ้าปากหวอเมื่อเห็นประตูรถของแตนเปิดหราขวางทางอยู่
            รีบตัดสินใจเบรกจนตัวโก่ง เบนมอเตอร์ไซค์ปัดไปทางกำแพงรั้ว จนแฉลบเสียหลักทั้งรถทั้งคนกลิ้งไถลไปกับพื้น
            ทุกคนยืนมองอย่างตกตะลึง
            ต้นกับตุ่มรีบปราดเข้าไปดูอาการปื๊ด เคราะห์ดีที่เป็นสนามหญ้า จึงไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายอะไรนักเพียงแค่เคล็ดยอกนิดหน่อยเท่านั้นเอง
            เป็นยังไงบ้างครับคุณปื๊ด?” ต้นถามด้วยความเป็นห่วง
            ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ต้น นิดหน่อยเองแต่ถ้ามาแรงกว่านี้อีกนิด ไม่แน่เหมือนกัน
            ปื๊ดลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นตามแขนขา ตุ่มรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
            ต้องขอโทษด้วยนะคะ เราไม่ทันเห็นเสียใจจริงๆค่ะที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทำให้คุณต้องมาได้รับบาดเจ็บ
            ตุ่มกุลีกุจอช่วยปัดฝุ่นให้ตามเนื้อตามตัวปื๊ด จนเด็กหนุ่มรู้สึกจั๊กจี้ขนลุก โบกมือห้ามเป็นพัลวัน
            ไม่เป็นไรหรอกครับไม่เป็นไร เป็นความผิดของผมเองครับที่ซุ่มซ่ามเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือ อย่าเป็นกังวลเลยครับคุณ….เอ้อ….คุณ….”
            “ตุ่มค่ะแล้วนั่นแตน…” ชี้มือไปทางเพื่อนสาวซึ่งยืนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี่ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด เราเป็นเพื่อนพี่ต้น…”
            “ยินดีที่ได้รู้จัก….ผมปื๊ดครับ พักอยู่ห้องติดกับพี่ต้นปื๊ดยิ้มให้กับทุกคนอย่างอารมณ์ดี
            อย่าไปถือสาอะไรกับแตนเลยนะคะแม่สาวน้อยหุ่นใกล้เคียงกับปื๊ดกระซิบบอก… “เค้ากำลังอรมณ์บูดกับพี่ต้น เลยหน้าหงิกเป็นจวักอย่างที่เห็นนั่นแหละ…”
            ชะรอยแตนจะได้ยินเพื่อนสาวแอบนินทา ทำตาขวาง
            จะกลับหรือยังยัยตุ่ม มัวชักช้าโอ้เอ้อยู่นั่นแหละ ! !”
            “จะไปเดี๋ยวนี้แหละย่ะ…” ตุ่มค้อนขวับ แล้วหันไปพูดกับปื๊ด ไปก่อนนะคะคุณปื๊ด ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณเช่นกัน ต้องขอโทษแทนยัยแตนอีกครั้งนะคะ"
            “ครับ….ผมดีใจที่ได้รู้จักกับคนน่ารักอย่างคุณตุ่มวันหลังแวะมาเที่ยวใหม่นะครับ…”
            “ค่ะ!”
            ไม่เคยมีใครชมแบบนี้มาก่อน ตุ่มหน้าแดงเป็นลูกตำลึง วิ่งต้วมเตี้ยมไปขึ้นรถ ยังไม่ทันปิดประตูเรียบร้อยดี แตนก็ตบเกียร์ถอยหลัง กระชากฮอนด้าซีวิคงามแล่นปรี๊ดถอยออกไปนอกรั้วแล้วเร่งเครื่องพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เสียงเครื่องยนต์คำรามลั่นก่อนที่รถจะหายลับไป
            แฟนพี่เหรอครับ….สวยดีนะ เสียอย่างเดียวหน้าบอกบุญไม่รับ
            ปื๊ดมองตามไปพร้อมกับส่ายหน้าดิก ต้นได้แต่หัวเราะหึๆ ก้มลงมองรถมอเตอร์ไซค์
            รถเป็นยังไงบ้าง มาผมจะช่วยดูแลให้
            สองคนช่วยกันยกมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาตั้งแสตนด์ปื๊ดนั่งยอง ๆ สำรวจไปรอบ ๆ รถของเขา
            ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเสียหายหรอกพี่ต้น เดี๋ยวผมจัดการเอง พี่ขึ้นไปนอนก่อนเหอะ
            “งั้นผมต้องขอตัวก่อนนะครับ รู้สึกง่วงนอนเต็มที่แล้ว
            เขาทำท่าจะเดินผละจากไป
            อ้อ ! เดี๋ยวก่อน…” ปื๊ดนึกอะไรขึ้นได้รีบเรียกเอาไว้ พี่ต้องระวังตัวให้ดีด้วยนะครับ ห้องที่พี่อยู่ผีดุจริง ๆ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน
            “คุณปื๊ดเคยเห็นหรือ?”
            “เปล่า………แต่ทุกคนที่มาเช่าอยู่ มักจะต้องโดนหลอกจนเผ่นหนีกันแทบไม่ทันทุกรายไป ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร…”
            “ขอบใจนะที่เตือน….”
            ถึงจะไม่เชื่อ แต่ต้นก็รับฟังเอาไว้ ไม่แสดงความเห็นอะไรออกมา เขาเดินไปที่บันไดอพาร์ตเม้นท์ ปล่อยให้เด็กหนุ่มหุ่นสมบูรณ์ จูงมอเตอร์ไซค์ไปเก็บในลานจอดรถ
                        **********
            พอเปิดไฟในห้องสว่างขึ้น ต้นต้องรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ที่เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าหล่นลงมาอยู่ข้างเตียงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ที่เขาบรรจงเรียงใส่กระเป๋าไว้กระจายอยู่เกลื่อนพื้นห้อง
            ชายหนุ่มยืนงง มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง ประตูหน้าต่างก็ไม่มีร่องรอยถูกงัดแงะ จะว่าขโมยเข้ามาในห้องนี้คงเป็นไปไม่ได้แน่
            แล้วอะไรล่ะที่ทำให้กระเป๋าเดินทางสีน้ำตาลใบใหญ่ขนาดนี้ลงมาเทกระจาดอยู่ข้างเตียงได้?
            อาจเป็นเพราะมือของเขาเอง ไปปัดโดนเข้าโดยไม่รู้สึกตัว ตอนที่รีบร้อนจะไปทำงานเมื่อเช้านี้ ต้นคิดในแง่ดีเอาไว้ก่อน
            รีบลงมือเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายรวบใส่กระเป๋า แล้วยกขึ้นไปตั้งไว้บนเก้าอี้ตัวเล็กหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเรียงของใช้ส่วนตัวกระจุกกระจิกไว้บนโต๊ะ เอาเสื้อผ้าออกมาแขวนเก็บไว้ในตู้ เก็บกระเป๋าไว้ในซอกตู้ชั้นล่างสุด ก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ออกมาพร้อมกับปิดประตูตู้เสื้อผ้าเสีย
            รู้สึกเหนียวเนื้อเหนียวตัวเต็มทน ดึงเน็คไทที่คอออก มองหันรีหันขวางแล้วโยนเน็คไทเส้นนั้นไว้บนเตียง ถอดเสื้อกางเกงออกโยนตามไป นุ่งผ้าเช็ดตัวฝืนเดียว คว้าขันใส่กล่องสบู่ ยาสีฟันและแชมพูสระผมเดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำไป
            พอลับหลังต้น เสื้อผ้าและเน็คไทที่กองอยู่บนเตียงก็มีอันปลิวหวือลงมาอยู่บนพื้นอีก
            หายเงียบไปเกือบยี่สืบนาที หลังจากอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคลจนค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้น ต้นจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือ เสื้อผ้าที่เขาถอดทิ้งไว้บนเตียง กลับลงไปกองแหมะอยู่ที่พื้นห้องข้างเตียง
            ชายหนุ่มชะงักนิดหนึ่ง ก้มลงเก็บขึ้นมาโดยไม่คิดเอะใจสงสัยอะไร เอาไปพาดไว้บนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
            ตั้งใจเอาไว้ว่า พรุ่งนี้นี้เย็นหากมีเวลาว่าง ค่อยเก็บรวบรวมเอาไปซัก เวลานี้เขารู้สึกอ่อนเพลียเมื่อยล้าเต็มทนแล้ว เพราะต้องผจญกับเรื่องยุ่ง ๆ วุ่นวายมาทั้งวัน อยากจะขอพักผ่อนหลับนอนให้สบายก่อน
            หยิบกระป๋องแป้งจากโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมาโรยตามตัว จนรู้สึกสดชื่นเย็นสบาย แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนขึ้นมาสวมใส่ เอาผ้าเช็ดตัวใส่ราวแขวนเสื้อ แขวนไว้ตรงหูจับของตู้เสื้อผ้า
            เขาไม่ได้นอนเต็มตามาสองสามคืนแล้ว คืนนี้กะจะขอนอนให้เต็มอิ่ม  ยืนบิดตัวไล่ความขบเมื่อยสองสามทีหน้ากระจก แล้วหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงตั้งท่าจะนอนหลังลงหลับให้สบาย
            ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนโดนผลักเข้าที่กลางหลังอย่างสุดแรง จนร่างของเขาต้องผวาจากเตียงลงไปคว่ำคะมำอยู่บนพื้นห้อง
            ต้นรีบเงยหน้าขึ้นมามอง
            เขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง….เพราะภาพที่เห็นคือผู้หญิงสาวสวยมากคนหนึ่ง ใบหน้ามีความงดงามอย่างประหลาด ผมยาวสยายลงมาเกือบถึงสะเอว แต่งกายด้วยชุดสีชมพูผ้าละเอียดอ่อนเบาพลิ้ว ดูคล้ายกับชุดนอน แต่ไม่ใช่ ประกายสีเงินสีทองริบระยับสะท้อนออกมาจากชุดที่สวมใส่อยู่นั้น
            หล่อนกำลังนั่งพับเพียบอยู่บนเตียง ดวงตากลมโตจ้องมองมาที่เขา อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
            ชายหนุ่มยกมือขึ้นขยี้ตา เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ใช่ภาพหลอนหรือตาฝากไป
            หญิงสาวยังคงนั่งนิ่งในท่าเดิม ผิวกายนวลเนียนผุดผ่อง รูปร่างทรวดทรงอรชรอ้อนแอ้น ดูน่ารักไปทุกส่วนสัด
            ชักนึกสงสัยตงิด ๆ หล่อนมานั่งอยู่บนเตียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
            คุณคุณเป็นใครเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง?”
            ต้นถาม พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืน
            เตียงนี้เป็นของข้าเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะมานอนจงไปให้พ้น! !”
            เสียงใส ๆ ดังลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มเอิบคู่นั้น แม้ในยามโกรธก็ยังมีความไพเราะ ประดุจเสียงระฆังเงิน
            ต้นยืนเซ่อไปเลย อะไรกันหว่านี่มันห้องของเขาเองนี่นา หรือว่าเขาเข้าห้องผิด
            เพื่อความแน่ใจรีบเดินผลุนผลันเดินไปเปิดประตูหน้าห้อง ชะโงกดูป้ายตรงประตูห้อง316สายตาของเขาไม่หลอกตัวเองแน่
            ชักรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาทันที คงไม่มีใครคิดเล่นตลกกับเขา ซึ่งมันไม่ถูกกาลเทศะเอาเสียเลย เวลานี้เขาอยากจะนอนเป็นที่สุด เพราะรู้สึกง่วงจัดเต็มที่แล้ว
            ชายหนุ่มเปิดประตูห้องทิ้งไว้แล้วรีบเดินรี่กลับมาที่เตียง
            นี่คุณคุณจะเป็นใครก็ช่าง รีบออกไปจากห้องของผมเดี๋ยวนี้นะ ผมไม่มีเวลาที่จะมาเล่นตลกกับคุณหรอก เชิญออกไปได้แล้ว!”
            หญิงสาวในชุดสีชมพูยาวนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ยืนยันออกมาอีกครั้งหนึ่ง
            เจ้านั่นแหละที่ต้องรีบออกไป จะมานอนที่นี่ไม่ได้ ! !”
            “ทำไมผมจะนอนที่นี่ไม่ได้ ในเมื่อผมเป็นเจ้าของห้อง จ่ายค่าเช่าห้องเรียบร้อยแล้วด้วย คุณเป็นใครมีสิทธิ์อะไรจะมาไล่ผม?” ต้นพูดโพล่งออกมาเสียงดังเพราะเหลืออดเต็มที่
            ข้าชื่อวนาเป็นเจ้าของเตียงนี้
            “ผิดไปละมั้งผมนี่ซิเจ้าของห้องที่แท้จริง…” เขาชี้หน้าอกตัวเอง คุณอาจจะเข้าห้องผิดแล้วมาตู่เอาว่าเป็นห้องของคุณ ดูให้ดีเสียใหม่ซิครับ
            “ไม่ผิดข้าอยู่ที่นี่มานานแล้วหล่อนยืนยันหนักแน่น
            มันยังไงกันแน่ ต้นคิด
            ทำไมจู่ ๆ ถึงมีคนมาอ้างเป็นเจ้าของห้อง หรือว่านี่เป็นแผนของคุณนายโฉมศรี ใช้ผู้หญิงคนนี้มาก่อกวนเพื่อให้เขาทนอยู่ไม่ได้ แล้วจะได้รับเงินมัดจำค่าเช่าห้องของเขาไปกินฟรีๆ
            ได้ยินว่าห้องนี้ไม่มีใครอยู่ได้นาน คงเป็นเพราะคุณนายโฉมศรีใช้วิธีสกปรกแบบนี้นี่เอง
            ใครใช้ให้คุณมาก่อกวน คุณวนา  คุณนายโฉมศรีใช่ไหม….ไม่ได้ผลหรอกนะ รีบออกไปเสียดีกว่าก่อนที่ผมจะทำอะไรรุนแรงกับคุณลงไป….”
            “ไม่มีใครใช้ข้าเจ้านั่นแหละรีบไปเสีย ข้าไม่ชอบให้ใครมาอยู่เกะกะในห้องนี้ อย่าได้คิดที่จะมาลองดีกับข้าจะเหมาะกว่า…”
            ป่วยการพูดให้เสียเวลา ต้นตัดสินใจรวบร่างหญิงสาวอุ้มขึ้นมาไว้ในวงแขนอย่างรวดเร็ว หล่อนดิ้นรนด้วยความตกใจไม่คิดว่าชายหนุ่มจะใช้วิธีการจู่โจมเช่นนี้
            ปล่อยข้าลงนะ! !”
            “ไม่!”
            เขายิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้น จนเรือนร่างของหล่อนแนบชิดสัมผัสกับกายของเขา มีกลิ่นหอมละมุนจากกายหญิงสาวลอยมากระทบจมูกต้น เป็นกลิ่นที่นุ่มนวลละมุนละไม ที่น่าแปลกประหลาด ไม่รุนแรกเหมือนน้ำหอม คล้ายเป็นกลิ่นดอกไม้อะไรสักอย่างมากกว่า
            แต่ในเวลานี้ชายหนุ่มไม่อยากสนใจสิ่งอื่นใดทั้งสิ้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องรีบกำจัดผู้หญิงคนนี้ไปโดยเร็วที่สุด
            เขาอุ้มร่างของหล่อนเดินจ้ำออกมานอกประตูห้องแล้วคลายวงแขนออก ทำให้หญิงสาวเสียหลักถลาล้มลงนั่งก้นกระแทกพื้น ร้องอุทานอย่างตกอกตกใจ
            ต้นไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด รีบกลับเข้าห้องปิดประตูล็อคแล้วลงกลอนอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้หล่อนกลับเข้ามาก่อกวนในห้องนี้อีกได้ จากนั้นจึงยืนพิงประตูถอนหายใจยาวออกมาอย่างรู้สึกโล่งอก
            เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะถ้าไม่เปิดมีเรื่องแน่! !”         
            เสียงดังมาจากนอกห้อง
            ไม่เปิด ! ไปให้พ้นจะไปไหนก็รีบไปซะผมจะนอน! !”
            เขาตะโกนออกไป แล้วเดินกลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างสบายใจเฉิบ
            ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ ตื้อชะมัดยากเลย หน้าตาก็ดูน่ารักดีออก ไม่น่าจะหากินทางรับจ้างก่อกวนชาวบ้านแบบนี้เลย ต้นนึกอยู่ในใจ
            พยายามสลัดความคิดต่าง ๆ ออกไป ไม่อยากเก็บมาให้รกสมองเพราะง่วงจัดเต็มที่อยู่แล้ว ไม่นานนักจึงค่อยๆผล็อยหลับไป ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย
            หลังจากตรวจเช็คความเสียหายมอเตอร์ไซค์คู่ชีพรีบร้อยแล้ว ปื๊ดจึงหันมาที่ห้องพักของตน เพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไปทำงานที่ห้องอาหาร ซี่งเขาเล่นดนตรีประจำอยู่ พอก้าวพ้นบันไดชั้นที่สามขึ้นมาเท่านั้น สายตาของเด็กหนุ่มเหลือบไปเห็นหญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้น เอวเล็กเอวบางน่ารัก กำลังยืนหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่หน้าประตูห้องพี่ต้น
            เด็กหนุ่มเจ้าเนื้อเขม้นมองอย่างสงสัย แตนคนรักของต้นเพิ่งจะกลับไปเมื่อสักครู่นี้เอง แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันล่ะ?
            “บอกให้เปิดประตูจะเปิดหรือไม่เปิด?”
            เห็นท่าทางทุบประตูด้วยความฉุนเฉียวของหล่อนปื๊ดถึงได้อมยิ้มร้องอ๋อในใจ
            นี่คงจะเป็นแฟนอีกคนหนึ่งของพี่ต้นแน่ เด็กหนุ่มคิด ไม่เลวเลยนี่ เพื่อนข้างห้องคนใหม่คนนี้เห็นท่าทางหงิมๆแท้ๆเล่นมีแฟนทีเดียวตั้งสองคนแน่ะ แต่ละคนก็สวยน่ารักทั้งนั้นเลย ช่างน่าอิจฉาชะมัด
            ผู้หญิงคนนี้อาจจะแอบเห็นแตนขับรถมาส่งต้นเลยเกิดความหึงหวงทะเลาะกันขึ้นมา
            ด้วยความชอบสอดรู้สอดเห็น ปื๊ดจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไขกุญแจห้องของตนเอง เปิดประตูเดินเข้าไปแล้วงับประตูเอาไว้ กะว่าจะค่อย ๆ แง้มประตูออกไปแอบดู
            แต่พอบานประตูห้องปิดสนิทลง วนาซึ่งรู้ดีแล้วว่าต้นไม่ยอมเปิดประตูให้แน่ เลยตัดสินใจเดินทะลุผ่านประตูเข้าไปในห้องเองหน้าตาเฉย
            เมื่อปื๊ดแง้มประตูห้องออกมาดูอีกที จึงไม่เห็นร่างของหญิงสาวเสียแล้ว
            เด็กหนุ่มจอมสอดรู้สอดเห็น รู้สึกงุนงงยิ่งนักเขาไม่ได้ยินเสียงประตูห้องของต้นเปิดออกมาเลยสักแกร๊กเดียว แล้วผู้หญิงคนนั้นหายไปไหน ชะโงกหน้ามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เขายกมือเกาหัวแกรกแล้วกลับเข้าไปในห้องปิดประตูตามเดิม
            ในห้องของต้น ชายหนุ่มยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง วนาเดินเข้ามายืนจ้องมองตาเขียว ผู้ชายคนนี้ยังไม่รู้จักฤทธิ์ของหล่อนดีพอ ถึงได้กล้าอวดดีอุ้มหล่อนโยนออกไปจากห้องอย่างหยาบคาย
            เห็นเขากำลังหลับอย่างสบาย ให้รู้สึกนึกหมั่นไส้ยิ่งนัก หล่อนยกมือขึ้นกอดอก แล้วพยักหน้าขึ้นหนหนึ่ง
            ร่างต้นที่นอนอยู่บนเตียงหายวับไปในพริบตาแล้วไปปรากฏอยู่ที่หน้าห้องแทน
            หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างรู้สึกพึงพอใจ ล้มตัวลงนอนบนเตียงแทนที่ นึกสมน้ำหน้าต้นยิ่งนัก ในเมื่ออยากจะมาลองดี ก็ต้องสั่งสอนให้รู้จักฤทธิ์นางไม้อย่างหล่อนเอาไว้เสียบ้าง
            ตรงทางเดินหน้าห้อง ร่างของต้นยังคงนอนหลับสนิทอย่างไม่รู้สึกตัวในท่าเดิม เป็นเพราะความง่วงจัดอย่างเต็มที่แล้วนั่นเอง และอาจจะต้องนอนอยู่อย่างนั้นไปอีกนาน หากปื๊ดไม่เปิดประตูออกมาเห็นเข้า
            เด็กหนุ่มแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วถือกีตาร์ไฟฟ้าคู่มือเตรียมตัวที่จะออกไปเล่นดนตรี พอเห็นต้นมานอนอยู่กับพื้นแบบนั้น ให้รู้สึกแปลกใจจนต้องเดินเข้ามาดูด้วยความสงสัย
            ท่าทางของต้นคงจะกำลังหลับสนิทเอาจริง ๆขนาดยุงบินมาเกาะบนใบหน้าตั้งหลายตัวยังไม่รู้สึกปล่อยให้พวกมันดูดเลือดกันเพลินไปเลย ปื๊ดคุกเข่าลงข้าง ๆ โบกปัดไล่ยุงให้แล้วสะกิดเรียก
            พี่พี่….”
            “อย่ามายุ่งน่า…” ต้นปัดมือปื๊ดพูดพึมพำเสียงอู้อี้ ทั้งๆที่ตายังหลับสนิท จะไปไหนก็ไปซิ่ คนจะหลับจะนอน มากวนใจอยู่ได้โน่นประตู
            ปื๊ดสะดุ้งโหยง ที่เห็นต้นยกมือขึ้นชี้ไปส่งเดช นึกขำจนแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
            มันยังไงกันแน่สงสัยท่าจะละเมอขนาดหนัก ขืนปล่อยทิ้งไว้มีหวังโดนยุงหามตาย ปื๊ดเขย่าตัวต้นแรงๆเพื่อปลุกให้เขารู้สึกตัว
            พี่ต้นพี่ต้น…”
            ชายหนุ่มลุกพรวดพราดขึ้นนั่งงัวเงีย เห็นปื๊ดมานั่งคุกเข่า มองทำตาเป๋าเหลออยู่ตรงหน้า แทบหายง่วงในทันที หันมองไปรอบ ๆยิ่งรู้สึกแปลกใจเมื่อรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของตนเอง แล้วเขาออกมานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
            เมื่อกี้นี้ผมเห็นแฟนพี่ยืนทุบประตูอยู่ทะเลาะกับแฟนหรือครับพี่ต้น?”
            คำว่าแฟนที่ปื๊ดพูดถึง คงหมายถึงผู้หญิงคนที่มีเรื่องถกเถียงกับเขานั่นเอง ชายหนุ่มทำท่าทางอึกอักไม่รู้จะตอบปื๊ดว่ายังไงดี ต้องตกกระไดพลอยโจน พยักหน้ารับหงึก
            อ๋อ! ใช่ ๆ ผิดใจกันเรื่องนิดหน่อยน่ะ…”
            “เข้าไปนอนในห้องผมก่อนก็ได้นะครับพี่ต้นกว่าผมจะกลับก็เกือบสว่าง พี่มานอนอยู่แบบนี้มีหวังโดนยุงหามตายกันพอดีปื๊ดบอกด้วยความหวังดี ดึงมือชายหนุ่มให้ลุกขึ้นยืน
            ขอบใจมากนะปื๊ดไม่ต้องหรอกนะ เดี๋ยวผมจะกลับเข้าไปนอนในห้องของผมเอง
            “แน่ใจนะครับพี่ต้นว่าจะไม่ถูกแฟนพี่ไล่ออกมาอีก?” ปื๊ดยังอดเป็นห่วงไม่ได้
            ไม่มีอะไรหรอกไปทำงานเถอะครับไม่ต้องเป็นห่วงผม
            เด็กหนุ่มหุ่นสมบูรณ์ยืนลังเลใจอยู่สักครู่หนึ่งแล้วเดินผละไปอย่างงงๆ พอปื๊ดก้าวลงบันไดลับหลังไปเท่านั้นเอง ต้นรีบถลันไปที่ประตู จับลูกบิดประตูห้องจะบิดเปิดออก
            ทว่า..มันถูกล็อคเอาไว้จากข้างใน แถมยังใส่กลอนอีกต่างหาก เป็นฝีมือของเขาเองนั่นแหละ เมื่อตอนที่เขาอุ้มหญิงสาวแปลกหน้าโยนออกจากห้อง
            ลองขยับลูกบิดประตูอีกสักสองสามที แล้วยืนนึกทบทวนเหตุการณ์ดู
            เขาเป็นคนปิดประตูล็อคใส่กลอนเองกับมือนี่นาผู้หญิงคนนั้นกลับเข้าไปในห้องได้ยังไงกัน แล้วทำไมตัวเองถึงออกมานอนอยานอกห้อง เป็นไปไม่ได้หรอกนะที่หล่อนจะอุ้มเขาออกมาผู้หญิงตัวเล็กๆเอวบางร่างน้อยแบบนั้น จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาอุ้มเขาไหว
            คิดๆไปยิ่งมึนหนัก ลองเรียกหล่อนออกมาถามดูให้มันรู้เรื่องกันไปเลยดีกว่า
            เปิดประตูซิเปิดประตู! !” ต้นเคาะประตูเรียก
            ไม่เปิดไปให้พ้นจะไปไหนก็รีบไปซะ ผมจะนอน! !” วนาพูดล้อเลียนแบบต้น
            ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก
            เอาเข้าแล้วไง ยัยคนนี้ตั้งใจจะหาเรื่องกับเขาแน่





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น