วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

เตียงนางไม้ ตอนที่ 15

โดย...เจิด จินตนา
๑๕ . . .


          ฮอนด้าซีวิคสีแดงเลี้ยวเข้าประตูอพาร์ตเม้นท์มา เมื่อดวงอาทิตย์กำลังใกล้จะอำลาขอบฟ้า และเข้าไปจอดนิ่งในลานจอดรถที่ใต้ถุนสองสาวซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันอย่างลิบลับ คนหนึ่งหุ่นเพรียวระหงดุจนางแบบ ส่วนอีกคนตัวป้อม ๆ เหมือนตุ่มต่อขา พากันก้าวลงมาจากรถเก๋งคันงาม
            แตนอยากจะรู้ว่าหล่อนทำกิ๊บติดผมลืมตกเอาไว้ในห้องต้นหรือเปล่า เลยชวนยัยตุ่มมาเป็นเพื่อน เพื่อจะได้ช่วยกันหา ตุ่มกำลังคิดถึงปื๊ดเด็กหนุ่มหุ่นสมบูรณ์ เพื่อนใหม่ของหล่อนอยู่เหมือนกัน จึงไม่กล้าปฏิเสธคำชวนของแตน
          ต้นยังไม่กลับมา หลังจากที่ชวนกันเดินไปเคาะประตูเรียกดูแล้วไม่มีเสียงตอบ สองสาวจึงกลับลงมานั่งรอที่โต๊ะม้าหินขัดข้างสนามหญ้า
            เกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ดวงอาทิตย์หายลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ยังไม่เห็นมีวี่แววของชายหนุ่มที่ตั้งตามารอคอย แตนกับตุ่มเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย
            ทำไมป่านนี้แล้ว พี่ต้นยังไม่เห็นกลับมาเสียที?” แตนหน้าง้ำ บ่นพึมพำเหมือนหมีกินผึ้ง ไม่รู้มัวไปเถลไถลอยู่เสียที่ไหน แย่จังเลยพี่ต้นนะพี่ต้น
            “นั่นน่ะซิ…” ตุ่มตั้งข้อศอกบนโต๊ะม้าหิน เอามือเท้าคางทำตาลอย หรืออาจจะไปธุระต่อที่ไหน คุณปื๊ดไม่อยู่ด้วยซิเลยไม่รู้จะไปถามใครดี”
            ในออฟฟิศ โฉมศรีสังเกตเห็นทั้งสองสาวคอยชะเง้อมองไปที่ประตูรั้วอยู่บ่อย ๆ อดไม่ได้ต้องลุกเดินออกมาถามดู
            มารอพบใครหรือคะ?”
            “รอคุณต้นคนที่อยู่ห้องสามหนึ่งหกแน่ะค่ะแตนเงยหน้าขึ้นตอบ
            ห้องสามหนึ่งหก!!”
            สาวใหญ่อุทานเสียงดังลั่น สีหน้าและท่าทางแสดงความประหวั่นพรั่นพรึ่ง แตนขมวดคิ้วเมื่อเห็นอาการเช่นนั้นของหล่อน
            ทำไมหรือคะห้องสามหนึ่งหกมีอะไรหรือคะคุณน้า?”
            “ปะเปล่าไม่มีอะไรหรอกหล่อนรีบออกตัวปฏิเสธด้วยกลัวว่าจะถูกเด็กหัวเราะเยาะเอา ทำให้แตนข้องใจเกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
            ท่าทางคุณน้าเหมือนกลัวอะไรอย่างงั้นแหละบอกมาเถอะค่ะ หนู เอ้อหนูกับพี่ต้นเป็นแฟนกันน่ะค่ะ
            โฉมศรียืนลังเลใจอยู่นิดหนึ่ง แล้วหย่อนก้นลงนั่งแหมะลงที่ม้าหิน ทำตาล่อกแล่ก ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แตน จีบปากจีบคอพูดเสียงค่อย ๆจนเกือบจะเป็นกระซิบ
            หนูอาจจะไม่เชื่อ เมื่อเช้านี้ฉันเห็นมีผู้หญิงผมยาว ๆนั่งอยู่ในห้องนั้น ข้าวของก็ลอยไปลอยมาเต็มไปหมด แต่พอพาคนกลับไปดูอีกทีนะ ไม่เห็นมีอะไรเลย สงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นผี ไม่ใช่คนแน่อุ้ย, น่ากลัวจริง ๆ ค่ะ…”
            เล่าแล้วทำท่าขนลุกขนชัน แตนชักนึกเอะใจเหมือนหล่อนเคยเจอผู้หญิงผมยาวในห้องของต้นเข้าเหมือนกัน
            ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไงคะคุณน้า?”
            “สวย….สวยมากเลย ตาโตหวาน ๆใส่กระโปรงยาวดูเหมือนจะคล้ายชุดราตรี สีชมพูสว่าง ๆ อะไรอย่างงั้นแหละ
            ใช่คนเดียวกันแน่คนที่แตนเห็นมีลักษณะและการแต่งกายแบบเดียวกันนี้ หล่อนคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องมีอะไรกับต้นอย่างแน่นอน
            อารมณ์หึงหวงงพุ่งพล่านขึ้นมาในทันที ต้นยังไม่กลับมา ดีแล้ว หล่อนจะขึ้นไปดูให้เห็นกับตา จับให้ได้คาหนังคาเขา
            คุณน้ามีกุญแจสำรองใช่มั้ยคะ หนูอยากจะขึ้นไปดูสักหน่อยค่ะ
            “เฮ้ย, มันจะดีหรือวะยัยแตน?”
            ตุ่มพูดทักท้วง เพราะรู้สึกหวาก ๆ ยังไงพิกลอยู่ แต่แตนไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจ ขอยืมกุญแจห้องสำรองจากโฉมศรี แล้วดึงยัยตุ่มขึ้นไปที่ห้องของต้นจนได้
            หล่อนเดินย่องมาที่หน้าห้องของต้นอย่างเงียบกริบตุ่มตามหลังมาด้วยใจที่เต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แตนไขกุญแจห้อง แล้วเปิดผัวะออกอย่างรวดเร็ว
            ในห้องแลดูมืดสลัว ทำให้ยังมองเห็นอะไรไม่ชัดเจนนัก ตุ่มคลำหาสวิตซ์ไฟจนเจอ แล้วเปิดไฟให้สว่างขึ้น
            ไม่เห็นมีใครเลย ทั้งห้องมีแต่ความว่างเปล่า แตนรู้สึกผิดหวังอย่างแรงที่ไม่ได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นตามที่หล่อนตั้งใจ
            ข้าวของทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูสะอาดตา ตุ่มเดินไปเปิดหน้าต่างด้านระเบียงเพื่อให้ลมเย็นฉ่ำจากภายนอกโชยพัดเข้ามา ลองเอามือลูบขอบหน้าต่างดูไม่มีฝุ่นติดมาเลยสักนิด คิดอยู่ในใจว่าต้นช่างขยันเอาเวลาที่ไหนมาทำความสะอาดห้อง จนดูเอี่ยมอ่องเช่นนี้ได้
            อย่ามัวยืนเซ่ออยู่เลยยัยตุ่ม มาช่วยกันหากิ๊บติดผมกันเถอะ
            แตนบอกกับเพื่อน แล้วก้มหน้าลงมองดูตามพื้นห้อง ตุ่มลงทุนนั่งคุกเข่าลงก้ม ๆ เงย ๆ คลานสี่เท้าช่วยเพื่อนของหล่อนมองหาอย่างขะมักเขม้น
            ทั้งสองคนช่วยกันค้นทั่วห้องอย่างละเอียดถี่ยิบทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นที่ใต้เตียง ซอกตู้ หรือใต้โต๊ะเก้าอี้ แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเจอเลย แตนชักเริ่มรู้สึกท้อใจ เชื่อว่าหล่อนคงไม่ได้ทำตกตายที่ห้องนี้แน่ เดินซึมไปหย่อนตัวลงนั่งที่เก่าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง นึกตำหนิตัวเองที่ไม่น่าสะเพร่าทำกิ๊บติดผมคู่นั้นหายไป
            ช่างมันเถอะวะแตน….ของราคาไม่กี่สตางค์ซื้อเอาใหม่ได้นี่หว่า ฐานะอย่างนายไอ้กิ๊บติดผมกระจอกๆแบบนั้น เหมาหมดทั้งร้านเลยยังไหว
            ตุ่มเข้ามาปลอบ  เมื่อเห็นเพื่อนนั่งซึมกระทืบเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก แต่แตนกลับถอนใจยาวสีหน้าเศร้าสลด
            นายไม่รู้อะไรหรอกยัยตุ่ม….ถึงมันจะดูไม่มีราคาแต่มีความหมายต่อฉันมาก เพราะมันเป็นของที่พี่ต้นซื้อให้…..นี่ถ้าพี่ต้นเขารู้ว่าฉันทำหายไป จะว่ายังไงบ้างก็ไม่รู้
            หล่อนนั่งก้มหน้า แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรเข้าบนโต๊ะเครื่องแป้งโดยบังเอิญ
            กิ๊บติดผมรูปผีเสื้อวางคู่กันอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งนี่เอง
            เจอแล้ว….เจอแล้ว….”  หล่อนอุทานเสียงลั่นจนตุ่มสะดุ้งเฮือกตกใจ แตนรีบคว้ากิ๊บติดผมคู่นั้นขึ้นมาจากโต๊ะ ฉันทำตกเอาไว้ในห้องนี้จริง ๆ พี่ต้นคงเจอเข้าเลยเก็บเอาไว้ให้
            ท่าทางหล่อนรู้สึกจะดีใจมาก แต่สำหรับตุ่ม พอเห็นของที่เพื่อนค้นหาเสียแทบเป็นแทบตาย ถึงกับต้องส่ายหน้าอย่างนึกสมเพชเวทนา มันก็ไอ้กิ๊บติดผมพลาสติกธรรมดา ไม่มีราคาค่างวดอะไรเลยนี่เอง
            แตนมองดูเงาตัวเองในกระจกทำท่าจะยกกิ๊บติดผมขึ้นติด แต่แล้วกลับต้องชะงักมือ เมื่อได้ยินเสียงตวาดร้องห้ามดังขึ้น
            อย่านะ!”
            ทั้งแตนกับตุ่มหันขวับไปมองพร้อมกัน
            ที่เตียงนอนวนากำลังนั่งขัดสมาธิจ้องมองมาที่แตนอย่างไม่พึงพอใจพร้อมกับออกคำสั่ง
            “เอากลับไปวางลงที่เก่าเดี๋ยวนี้
            “อ๋อ,แกนี่เอง…” พอเห็นหน้าแตนจำได้ทันที ว่านี่คือผู้หญิงคนที่หล่อนเคยเห็นอยู่กับต้นในห้องนี้ หญิงสาวทำตาลุกวาวดุจแม่เสือ แกมีสิทธิ์อะไรที่จะมาออกคำสั่งนี่มันของ ๆ ฉัน!”
            หล่อนสะบัดหน้า หันกลับไปที่กระจกเงา ติดกิ๊บทั้งคู่ไว้ที่ชายผมของตัวเองเหมือนจะเป็นการท้าทาย
            คุณเข้าใจผิด กิ๊บคู่นั้นคุณต้นซื้อให้ฉันเอาคืนมานะ!”
            วนาก้าวลงจากเตียง แล้วหงายฝ่ามือทั้งสองข้างยื่นไปตรงหน้า
            ทันใดนั้น แตนรู้สึกเหมือนมีพลังลึกลับอะไรบางอย่างดึงดูดตัวหล่อนเซถลาเข้าไปหานางไม้สาวอย่างไม่มีทางดิ้นรนขัดขืนได้ หล่อนยืนตกตะลึง ปล่อยให้วนาดึงกิ๊บติดผมกลับคืนไปอย่างง่ายดาย
            รู้สึกแค้นใจจนเลือดขึ้นหน้าที่โดนวนาทำเช่นนี้กับหล่อน แตนเงื้อง่าฝ่ามือหมายจะตบหน้าสั่งสอน
            แก….แกกล้าดียังไง?”
            แต่ฝ่ามือยังไม่ทันได้สัมผัสกับแก้มนวลของนางไม้สาว วนาเพียงแค่ถลึงแล้วพยักหน้า ร่างของแตนก็ผวากระเด็นออกไป เหมือนถูกผลักอย่างแรงไปปะทะกับโต๊ะเครื่องแป้ง ข้าวของที่วางเรียงรายอยู่บนนั้น ถูกแรงปะทะสะเทือนล้มกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นห้อง พร้อมกับร่างแตนที่ทรุดฮวบลงไป
            ขอเถอะนะแตน อย่ามีเรื่องกันเลยตุ่มรีบเข้าไปประคองเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นยืน
            ไม่ต้องมายุ่ง….”  แตนสะบัดมือ แล้วหันมาจ้องหน้าวนาอย่างรู้สึกแปลกใจ แกเป็นใคร
            “ฉันชื่อวนา….ของสิ่งนี้คุณต้นเป็นคนให้ฉัน คุณไม่มีสิทธิ์จะเอาไป
            “แก…..แกเป็นอะไรกับพี่ต้น บอกมาเดี๋ยวนี้น่ะ? แตนแผดเสียงร้องถามดังลั่นห้อง
            ฉันอยู่ที่นี่….คุณต้นเป็นคนอนุญาตให้ฉันอยู่….”
            คำก็คุณต้นสองคำก็คุณต้น แตนรู้สึกแค้นใจจนต้องแผดเสียงร้องกรี๊กกระทืบเท้าเร่า ๆ
            อ้อ ! นี่หมายความว่า แกเป็นเมียพี่ต้นอย่างงั้นหรือ แกแกนะแก อีนังตัวแสบ!”
            หล่อนกัดฟันกรอดแล้วพุ่งตัวกระโจนพรวดเข้าหาวนา หมายผลักให้ล้มหงายไป แต่ทว่า มือทั้งสองข้างกลับสัมผัสกับอากาศอันว่างเปล่า แตนตาเหลือกเพราะคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ แล้วร่างของหล่อนก็ทะลุผ่านร่างนางไม้สาว เสียหลักถลาลงไปล้มฟุบหน้าคว่ำอยู่บนเตียง
            ยัยตุ่มแหกปากร้องเสียงหลง วิ่งหนีปุเลง ๆ ออกไปจากห้องอย่างสุดชีวิต
            แตนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่หล่อนไม่อาจจะเอาชนะด้วยกำลังได้ หล่อนยืนตกตะลึง ใบหน้าเริ่มถอดสี ศีรษะของนางไม้สาวปรากฏกลับมาอย่างเดิมจ้องมองหล่อนด้วยสายตาดุดัน
            คุณเป็นคนหยาบคายมาก ชอบถืออำนาจบาตรใหญ่ ข่มเหงรังแกทำร้ายจิตใจคนอื่น….คุณทำกับคนอื่นได้ แต่ทำกับฉันไม่ได้ผลหรอกจะบอกให้
            ความจริงแล้ว  วนาไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำร้ายแตนเลยแม้สักนิด นางไม้สาวเพียงแค่พูดข่มขู่ให้หล่อนเกิดความหวาดกลัวเท่านั้นเอง แต่กลับได้ผลเกินคาดแตนกลัวจนเกิดอาการเกร็งไปทั้งตัว พอวนาก้าวเข้ามาหาอีกเพียงก้าวเดียว หล่อนถึงกับมือไม้อ่อนปวกเปียก เป็นลมล้มฟุบไปทันที
            ต้นกลับมาถึงอพาร์ตเม้นท์ เห็นตุ่มหวีดร้องวิ่งลงบันไดมาด้วยสีหน้าแสดงความหวาดกลัวอย่างขีดสุดขีดเขาต้องรีบกระโดดลงจากเบาะท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของปื๊ด ทั้ง ๆ ที่ยังจอดไม่สนิท วิ่งปราดเข้าไปหา
            เป็นอะไรไปน่ะตุ่ม?”
            “พี่ต้นช่วยทีเร็ว  ยัยแตน….ยัยแตนถูก….ถูกผีหลอกในห้องพี่ต้น  รีบขึ้นไปช่วยเร็วเข้า!” ตุ่มละล่ำละลักบอกเสียงสั่น
            ตายห่ะยุ่งล่ะซิ !”
            ชายหนุ่มอุทานอย่างตกอกตกใจ รีบกระโจนพรวดพราดขึ้นบันไดไป ทิ้งให้ตุ่มยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้นปื๊ดดับเครื่องตั้งขาหยั่งมอเตอร์ไซค์ แล้วเดินเข้ามาหาอย่างงงๆ
            มีอะไรหรือครับคุณตุ่ม?”
            “ตุ่มโดนผีหลอกมีผีอยู่ในห้องของพี่ต้น มันน่ากลัวจริง ๆ บริ๋อ อ อ….”
            ตุ่มทำท่าขนลุกขนพอง เผลอตัวผวาเข้าไปกอดปื๊ดเอาไว้แน่น ข้างฝ่ายเด็กหนุ่มพอได้ยินคำว่าผี ก็เกิดความกลัวจนแทบขวัญหนีดีฝ่อขึ้นมาเช่นกัน เลยยืดกอดกันกลมตัวสั่น ทำให้คุณนายโฉมศรี ซึ่งโผล่หน้าออกจากออฟฟิศมาได้ยินเข้าพอดี รีบปิดประตูผลุบกลับเข้าไปนั่งพนมมือสวดมนต์ปากคอสั่นไปหมด
            ตายล่ะ ! พี่ต้นพี่ต้นขึ้นไปแล้ว….”  ตุ่มเพิ่งนึกขึ้นได้ ผละออกจากปื๊ด  คุณปื๊ดรีบตามไปช่วยทีซี่เดี๋ยวพี่ต้นก็โดนผีหักคอเอาหรอก…”
            “ผมน่ะเหรอ?” เด็กหนุ่มทำตาเหลือกอ้าปากค้าง
            ก็ใช่น่ะซี่จะมีใครอีกล่ะ เร็วเข้าเถอะ ป่านนี้พี่ต้นกับยัยแตน จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้….”
            หล่อนพูดพร้อมกับจับแขนของเขาเขย่า เพื่อเร่งเร้าให้ปื๊ดรีบขึ้นไปช่วยเร็ว ๆ เด็กหนุ่มทำท่าทางอิดออด เขาก็กลัวผีเหมือนกันนี่นา มันจะไหวหรือ
            แต่เมื่อเห็นสายตาอันวิงวอนของหญิงสาวหุ่นตุ้ยนุ้ย ชายหนุ่มต้องกลืนน้ำลายเอื๊อกอย่างรู้สึกฝืดคอตัดสินใจรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีอยู่ ค่อย ๆ ก้าวขาขึ้นบันไดอย่างหวาด ๆ
            ต้นมาถึงที่ห้อง เขาเห็นแตนนอนแผ่อยู่บนพื้นมีวนากำลังยืนมองดูอยู่ รีบเข้าไปประคองหญิงคนรักแล้วเงยหน้าขึ้นขมวดคิ้วถามนางไม้สาว
            คุณทำอะไรคุณแตนหรือ?”         
            “วนาไม่ได้ทำอะไรเลย…..เธอตกใจเป็นลมพับไปเองนางไม้สาวบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ยังเห็นสายตาของเขาแสดงความคลางแคลงใจอยู่ สงสัยอะไรหรือคะคุณต้น วนาเป็นเทพเทพารักษ์ พูดจาโกหกไม่ได้หรอกนะคะ…”
            เขาไม่ติดใจสงสัยอะไรอีกต่อไป เขย่าหญิงคนรักในอ้อมแขนเบา ๆ เพื่อให้หล่อนรู้สึกตัว
            คุณแตนคุณแตนครับ?”
            หญิงสาวค่อย ๆ ได้สติ เปิดเปลือกตาขึ้นมา พอเห็นหน้าชายหนุ่ม หล่อนรีบผวาเข้ากอดเอาไว้แน่น
            พี่ต้นอีนังนั่นมันเป็นผี รีบไล่มันไปซะพี่ต้นไล่มันไปเร็ว!”
            ร้องบอกปากคอสั่น พร้อมกับชี้มือไปที่วนา แต่เขากลับมีท่าทีนิ่งเฉยอยู่
            มัวชักช้าอยู่ทำไมล่ะพี่ต้น….รีบไล่มันไปซี่ แตนกลัว!”
            เสียงหล่อนเร่งเร้าอีก ต้นหันมองไปที่นางไม้สาวเห็นมีสีหน้าสลดลง ทำให้เขาเกิดความอึดอัดใจขึ้นมา
            ถ้าเขาออกปากไล่วนาตามคำขอร้องของแตน นางไม้สาวจะต้องไปจากที่นี่ และไม่มีวันหวนกลับคืนมาอีกอย่างแน่นอน
            ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ปื๊ดกำลังยืนอยู่ที่ประตูค่อย ๆ โผล่หน้ามามองดูเหตุการณ์อย่างหวาด ๆ เขาเห็นแตนกำลังออกงิ้วเช้าพอดี    
            ไล่มันไปซี่พี่ต้น แตนบอกให้ไล่มันไปหล่อนออกคำสั่งกับชายคนรักอย่างวางอำนาจ
            เธอไม่ทำอะไรคุณแตนหรอกครับ ถ้าหากว่าคุณแตนไม่ไปทำให้เธอโกรธ
            คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวตาลุกวาวขึ้นมาในทันที
            อ้อ ! พี่ต้นพูดเข้าข้างมัน เห็นนังปีศาจนั่นมันดีกว่าแตนอย่างงั้นใช่ไหมดีแล้ว! !”
            หล่อนผลักอกเขาอย่างแรงด้วยความฉุนเฉียว แล้วสะบัดหน้าลุกขึ้นจ้ำพรวด ๆ ไปที่ประตู ปื๊ดต้องรีบเบี่ยงตัวเปิดทางให้
            เดี๋ยวก่อนซิคุณแตนฟังผมก่อน เธอไม่ใช่ผี” ต้นวิ่งตามมาฉุดรั้งแขนของหล่อนเอาไว้
            “อย่ามาถูกตัวฉันนะ คนวิตถารเห็นผีดีกว่าคน….เชอะ!”
            หล่อนเชิดหน้าอย่างดูกเหยียดหยาม แล้วเดินอ้าวลงบันไดไป โดยไม่ยอมรับฟังคำชี้แจงใด ๆ ทั้งสิ้นปล่อยให้ชายหนุ่มยืนหน้าชากับคำสบประมาทนั้น
            ปื๊ดกำลังก้าวถอยหลัง ย่องกลับออกจากในห้อง ต้นเหลือบไปเห็นเข้าพอดี เขารีบคว้าแขนเสื้อเด็กหนุ่มเอาไว้
            เดี๋ยวก่อนปื๊ด….อย่าเพิ่งไปมารู้จักกับคุณวนาก่อน
            ไหน ๆ เด็กหนุ่มก็ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วเขาจึงไม่อยากจะปิดบังอะไรอีกต่อไป แต่ปื๊ดกลับสั่นหน้าโบกไม้โบกมือวุ่นวาย
            มะ….มะ….ไม่เอาหรอกพี่ต้น อย่าดีกว่า
            “มาเถอะน่า….เธอไม่ใช่ผีหรอก
            เขารั้งตัวปื๊ดเข้ามาในห้องจนได้ แล้วปิดประตูเสียเด็กหนุ่มรู้สึกกลัวจนแทบจะฉี่ราดกางเกง แข้งขาสั่นพึ่บพับไปหมด เมื่อมายืนอยู่ต่อหน้านางไม้โฉมงาม
            นี่คือคุณวนา….เธอเป็นรุกขเทวดาไม่ใช่ผี ต้นกล่าวแนะนำ
            “ยินดีมากค่ะที่ได้รู้จักกับคุณปื๊ด” นางไม้สาวเปิดยิ้มอย่างแสดงไมตรี
            ชะ…..ชะ….เช่นกันครับ คุณวนาเสียงปื๊ดยังไม่หายสั่น
            ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ วนาไม่ทำอะไรคุณปื๊ดหรอก….คุณปื๊ดเป็นคนดี วนาอยากรู้จักเป็นเพื่อนกับคุณมานานแล้วเหมือนกัน
            “เห็นมั้ย….เธอไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ใจดีออกดูน่ารักด้วยจริงมั้ยปื๊ด?” ต้นพยายามพูดโน้มน้าวจิตใจให้เด็กหนุ่มคลายความหวาดกลัวลง
            “แฮ่ะ ๆ จริงครับพี่ต้น….แต่ว่าคุณวนาไม่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกผมแน่นะ?”
            ปื๊ดย้ำเพื่อให้แน่ใจ นางไม้แสนสวยพยักหน้าน้อย ๆ
            วนาไม่ใช่พวกสัมพเวสี แล้วก็ไม่ชอบหลอกใครเล่นแบบนั้นด้วย คุณปื๊ดวางใจได้เลยนะคะ
            คำตอบของหล่อนทำให้ปื๊ดค่อยรู้สึกเบาใจขึ้นอักโขยิ้มออกมาได้อย่างเต็มที่ บรรยากาศจึงหายเครียดลง
            คุณวนาไปทำอะไรคุณแตนกับยัยตุ่มเข้า พวกเขาถึงไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวแบบนั้น?” ต้นถาม
            วนาไม่ได้ทำอะไรเลย….คุณแตนเธอมาเอากิ๊บติดผมคู่นี้ไปบอกพร้อมกับแบมือให้ดู แต่วนาไม่ยอมให้ คุณแตนเลยโกรธจะทำร้ายวนา แต่ทำอะไรวนาไม่ได้เลยเกิดความกลัวกันไปเอง
            “นึกแล้วเชียว ว่าสาเหตุจะต้องมาจากกิ๊บติดผมคู่นี้!” ต้นบ่นพึมพำอย่างรู้สึกอิดหนาระอาใจ ของเล็ก ๆ น้อย แค่นี้เอง คุณวนายอมให้คุณแตนไปเสียมันก็หมดเรื่อง ไว้ผมซื้อให้คุณใหม่ได้นี่นา….”
            “วนาเคยบอกคุณต้นแล้วไงว่า ของคุณต้นให้วนามันก็เป็นสิทธิ์ของวนา ใครจะมาเอาไปต้องรับอนุญาตจากวนาก่อน เหมือนกับการเอาของไปถวายศาลพระภูมิแบบนั้นแหละ
            คำชี้แจงของนางไม้สาว ทำให้ต้นถึงกับต้องยืนนิ่งอึ้งไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น