วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

เตียงนางไม้ ตอนที่ 17

โดย...เจิด จินตนา
๑๗. . .


         
          ผมเปล่านะเตี่ย แม่เขาใช้ให้ผมมาสืบดูเท่านั้น!”
            “หา! ไอ้ปื๊ดนี่แม่มึงรู้แล้วหรือผู้เป็นพ่อตกใจสะดุ้งเฮือก
            ใช่ถ้าเตี่ยยังไม่เลิกกับมัน ผมก็จะไปบอกแม่
            “อย่าเชียวนะไอ้ปื๊ด….มึงก็รู้ว่าแม่มึงมือหนักขนาดไหน มึงอยากให้กูตายหรือไง?”
            “แม่เขารู้ระแคะระคายมานานแล้ว ยังไม่รู้อยู่อย่างเดียวว่ามันเป็นใครเท่านั้น เตี่ยเล่นไม่ยอมกลับไปนอนบ้านทีนึงตั้งสองสามวัน แม่เขาเลยสงสัยน่ะซิ่
          เสี่ยใหญ่ยืนนิ่งอึ้งหัวหมุนติ้วไปหมด ปื๊ดเดินเข้ามาหากุมมือเตี่ยของเขา
            ผมขอร้องล่ะ….เลิกยุ่งกะมันเสียเถอะเตี่ย เพื่อเห็นแก่แม่ ไม่ยั้งงั้นผมก็จำเป็นที่จะต้องนำเรื่องนี้ไปบอกให้แม่รู้ผมรู้นะว่าเตี่ยเอาเงินไปซื้อรถไปซื้อบ้านให้มันอยู่รถอะไรสีอะไร กท.อะไร ผมรู้หมดแล้ว เวลานี้เพื่อนของผมกำลังสะกดรอยตามไปดูว่ามันอยู่ที่ไหน เตี่ยอย่าทำให้แม่ต้องช้ำใจตายเพราะเรื่องนี้เลยนะ
            โดนทั้งปลอบทั้งขู่ เสี่ยกำชัยถึงกับทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนระโหยโรยแรง
            เอาล่ะ ๆ กูรับปากว่าต่อไปจะไม่ยุ่งกับมันอีกแล้วมืงกลับไปได้แล้วไอ้ปื๊ด
            โบกมือไล่ลูกชายโดยไม่ยอมหันมามองหน้า เขาจำเป็นต้องรับปากเอาไว้ก่อน เพื่อเห็นแก่สวัสดิภาพของตนเอง
                        **********
            เป็นเวลานานแล้ว ที่อรอนงค์สังเกตเห็นรถมอเตอร์ไซค์สีแดง ขับตามหล่อนมาตลอดเวลา คนขี่เป็นเด็กหนุ่มหุ่นผมสูง ไว้ผมยาวใส่แว่นกันแดดสีดำ

            เมื่อรถของหล่อนจอดติดไฟแดง มอเตอร์ไซค์คันนั้นยังคงจอดจี้ตามหลังอยู่ ทั้ง ๆ ที่มีช่องว่างพอที่จะแทรกขึ้นไปข้างหน้าได้อย่างสบายแต่กลับไม่ยอมไปก่อน นั่นแหละที่ทำให้หล่อนเริ่มรู้สึกผิดสังเกต            หญิงสาวหักพวงมาลัยรถเก๋งคันงามเปลี่ยนเส้นทางเป็นเลี้ยวซ้าย เมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียว แล้วชำเลืองตามองดูในกระจกส่องหลัง            มอเตอร์ไซค์คันนั้นยังคงแล่นตามมาห่าง ๆ ทิ้งระยะพอสมควร            หล่อนแน่ใจทันทีว่า กำลังถูกสะกดรอยตาม            แต่เพื่อจุดประสงค์อะไรกันล่ะ?”
            ไม่ใช่เพื่อหวังชิงทรัพย์แน่เพราะเห็นขี่มาคนเดียวไม่มีใครซ้อนท้าย และในสภาพท้องถนนจอแจแออัดเช่นนี้ มันคงไม่บ้าพอที่จะทำอะไรอุกอาจ            ถ้าเช่นนั้น มันตามหล่อนมาทำไม            ใจคอชักไม่ค่อยสู้ดี หญิงสาวล็อคประตูรถทุกบานเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้น เพื่อให้หลุดพ้นจากการติดตามของมอเตอร์ไซค์ลึกลับคันนี้            อ๊อดซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังหล่อนมา ตั้งแต่ออกจากโรงงานทอผ้า เห็นบีเอ็มดับบลิวที่เขารับหน้าที่สะกดรอยเร่งความเร็วขึ้น จึงรีบบิดคันเร่งไล่ตามไม่ยอมให้คลาดสายตา            เด็กหนุ่มไม่ได้นึกเฉลียวใจเลยสักนิดว่า หญิงสาวที่เขากำลังสะกดรอยตามอยู่นั้นเริ่มไหวตัวเสียแล้ว และพยายามหาทางหนีให้พ้นไปจากเขา            พอถึงจุดกลับรถตรงช่องเกาะกลางถนน บีเอ็มดีบบลิวสีเหลือกมังคุดชะลอความเร็วลง แล้วเลี้ยวกลับทันที ในจังหวะที่ยังไม่มีรถแล่นสวนมา เบนเข็มพึ่งหน้าย้อนกลับมาทางเก่า            อ๊อดเห็นเข้าเช่นนั้นรู้สึกตกใจยิ่งนัก รีบเบรกจนตัวโก่ง แล้วเลี้ยวกลับเร่งเครื่องไล่กวดตามไปพร้อมกับนึกแช่งชักหักกระดูกหญิงสาว ที่อยู่ดี ๆ เกิดเปลี่ยนเส้นทางอย่างกะทันหัน            อรอนงค์เหยียบคันเร่งเต็มที่ บีเอ็มดับบลิวเครื่องแรงจัดคันนั้นพุ่งปราดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แซงซ้ายปาดขวาอุตลุด เป็นที่น่าหวาดเสียวยิ่งนัก เวลานี้หล่อนคิดอยู่อย่างเดียวคือหนี หนีให้พ้นจากการติดตาม            หล่อนพอจะนึกออกแล้ว ต้องมีใครใช้ให้มันสะกดรอตามหล่อนมา แต่หล่อนไม่เคยมีศัตรูที่ไหนเลยนี่นา            หรือว่าเมียหลวงของเสี่ยกำชัยจ้างมือปืนให้มาเก็บหล่อน?
            คงใช่แน่ เพราะลักษณะท่าทางของคนขี่มอเตอร์ไซค์หน้าตาบอกยี่ห้ออยู่            คิดแล้วให้รู้สึกเสียววูบขึ้นมาในทันที ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ต้องรีบหนีไปให้ได้ แต่ถนนดูเหมือนจะเป็นใจเอาเสียเลย ยวดยานที่คับคั่งจอแจ ทำให้หล่อนกระทำตามที่คิดได้ไม่ถนัด มอเตอร์ไซค์ซึ่งซ่อกแซ่กได้คล่องตัวกว่า ในไม่ช้าจึงไล่กรวดตามมาจนทันอีก            ถ้าหากเป็นถนนที่ว่าง ๆ  กำลังแรงของมอเตอร์ไซค์คันนั้นไม่มืทางไล่กวดรถเก๋งของหล่อนทันแน่สมองเริ่มคิดหาเส้นทางที่จะหนีใหม่            ผ่านแยกซอยเสนาบนถนนพหลโยธินมาเล็กน้อยเบื้องหน้าของหล่อนคือสามแยกเกษตร หล่อนตัดสินใจหักรถเข้าเลนซ้าย เลี้ยวออกถนนงามวงศ์วานเพื่อมุ่งหน้าไปสู่วิภาวดีรังสิต คิดว่าจะอาศัยทางด่วนเป็นเส้นทางหลบหนี เพราะรถมอเตอ์ไซค์ขึ้นไปแล่นบนทางด่วนไม่ได้            ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรถนนค่อนข้างโล่งอรอนงค์เหยียบคันเร่งเต็มที่ เหลือบดูในกระจกส่องหลังมอเตอร์ไซค์คันนั้นกำลังเร่งเครื่องเต็มที่ตามมาเช่นกันแต่ดูเหมือนว่า รถของหล่อนจะค่อย ๆ ทิ้งห่างมันออกไป            แล้วโชคเกิดเข้าข้างหล่อนอีก ทางแยกถนนวิภาวดีช่วงสะพานลอยบางเขนกำลังเป็นไฟเขียวพอดี หล่อนรีบเร่งเครื่องเพื่อให้ผ่านพ้นสัญญาณไฟเขียวนี้ไป            ตรงทางรถไฟเบื้องหน้าสัญญาณเตือนกำลังดังขึ้นพร้อมกับมีไฟกระพริบที่ไม้กั้น ขบวนรถดีเซลรางกำลังจะเคลื่อนตัวออกจากสถานีบางเขน ไม้กั้นค่อย ๆ เลื่อนลงมา            หญิงสาวเกิดฉุกคิดเปลี่ยนใจอย่างกะทันหันหล่อนจะใช้รถไฟขบวนนี้ สกัดกั้นการติดตามของรถมอเตอร์ไซค์            แทนที่จะเลี้ยวซ้าย หญิงสาวรีบหักพวงมาลัยกลับให้รถพุ่งเข้าหาทางรถไฟ แซงรถที่จอดรออยู่รอดไม้กั้นไปได้อย่างหวุดหวิดน่าใจหายใจคว่ำ            อ๊อดกำลังควบมอเตอร์ไซค์ของปื๊ดข้ามสีแยกมาพอเห็นเช่นนั้นต้องรีบชะลอความเร็วลงเพราะไม้กั้นลงมาปิดกั้นถนนพอดี เขามองตามหลังบีเอ็มดับบลิวคันนั้น ซึ่งกำลังทะยานข้ามสะพานบางเขนไปอย่างรู้สึกฉุนจัด            เหลียวไปดูที่สถานีรถไฟดีเซลรางขบวนนั้น กำลังเคลื่อนตัวช้า ๆ ออกจากสถานี เปิดหวูดเสียงดังลั่น            หากจะรอให้รถไฟขบวนนี้ผ่านพ้นไปเสียก่อน เขาคงไม่มีทางตามหล่อนทันแน่ อ๊อดตัดสินใจอย่างฉับพลันเป็นไงเป็นกัน รีบลงเกียร์ต่ำเร่งเครื่องอย่างเต็มที่บังคับมอเตอร์ไซค์เลี้ยวอ้อมเกาะกลางถนนไปยังอีกด้านหนึ่ง            ถนนกำลังว่างพอดี เพราะรถที่จะแล่นสวนมาถูกกั้นรอรถไฟอยู่ เขาเร่งเครื่องอีกทีพามอเตอร์ไซค์ไต่เข้าไปในรางรถไฟ เพื่อเลี้ยวอ้อมปลายไม้กั้นอีกอันหนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม            เขาจะต้องทำเวลาอย่างเต็มที่ แข่งกับรถดีเซลรางขบวนนี้ ท่ามกลางสายตาของทุกคู่ ซึ่งอยู่ภายในบริเวณนั้น ที่พากันจ้องมองดูการกระทำอันบ้าบิ่นของเด็กหนุ่มอย่างใจหายใจคว่ำ            ขบวนรถดีเซลรางเคลื่อนมาจนถึงขอบถนนแล้วอ๊อดบิดคันเร่งสุดแรงเกิด พามอเตอร์ไซค์พุ่งทะยานออกทางรถไฟ เฉียดหน้าหัวรถจักรดีเซลไปเพียงแค่ไม่ถึงคืบ            พนักงานรถไฟที่ทำหน้าที่โบกธงเต้นหรา ด่าไล่ตามหลังอ๊อดไปเสียงโขมงโฉงเฉง แต่เด็กหนุ่มไม่ได้สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาบิดลูกเดียว พารถพุ่งทะยานข้ามสะพานเขนไปอย่างรวดเร็ว            อรอนงค์แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อเหลือบมองในกระจกส่องหลัง เห็นมอเตอร์ไซค์คันเก่ากำลังลงสะพานมา สีหน้าของหล่อนซีดเผือดลงทันที คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่ามันจะหลุดรอดจากรถไฟขบวนนี้มาได้            ทำอย่างไรถึงจะหนีพ้นเจ้ามอเตอร์ไซค์บ้า ๆ คันนี้เสียที ขืนปล่อยให้มันตามหล่อนไปเรื่อย ๆ มีหวังต้องเป็นโรคประสาทตายก่อนที่จะโดนลูกปืน            มองไปข้างหน้า เห็นมีด่านตรวจอยู่เลยเรือนจำกลางไปเล็กน้อย เจ้าหน้าทีตำรวจสองสามนายกำลังตั้งด่านตรวจจับรถมอเตอร์ไซค์อยู่            อรอนงค์รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที ดีใจเหมือนเห็นพระมาโปรด รีบชะลอความเร็วของรถลง แล้วแตะเบรกให้จอดชิดขอบถนนตรงด่านตรวจพอดี            ตรงกันข้ามกับอ๊อด พอเห็นด่านตรวจเข้าเท่านั้นหน้าถอดสีทันที เพราะตัวเองไม่มีใบขับขี่เลย            แย่ล่ะซิเสร็จแน่ล่ะเราคราวนี้หล่อนคงจะรู้ตัวแล้วว่าถูกเราสะกดรอยตามมา….ระยำจริง ๆ พับผ่า !”
            อ๊อดสบถออกมาเบา ๆ ในลำคอ ถึงยังไงเขาคงไม่มีทางผ่านด่านตรวจนั้นไปได้แน่ เห็นทีจะต้องเปลี่ยนความตั้งใจเลิกติดตามหล่อนเสียแล้ว            กำลังคิดที่จะเลี้ยวกลับ พอดีเหลือบเห็นรถเมล์ปรับอากาศเคลื่อนตัวออกจากป้ายจอด ความคิดแว้บเข้ามาในสมองของเขาทันที            ต้องขอลองเสี่ยงดูอีกสักครั้ง โดยการใช้รถเมล์คันนี้เป็นเครื่องกำบัง จากสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงด่านตรวจ หากโชคยังเข้าข้างอยู่ เขาคงสามารถที่จะรอดพ้นไปได้            คิดได้ดังนั้น เด็กหนุ่มรีบบังคับรถมอเตอร์ไซค์ขับตามจี้ตูดรถเมล์ปรับอากาศไปอย่างกระชั้นชิด            ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย คุณตำรวจ!”
            อรอนงค์เปิดประตูรถ วิ่งพรวดพราดตรงไปหาตำรวจยศจ่าสิบเอกนายหนึ่ง พร้อมกับละล่ำละลักบอก            มีอะไรให้ช่วยหรือครับคุณ?”
            “คนร้ายคนร้ายค่ะ คนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามฉัน            ไหนครับไหน?”
            จ่านายสิบตำรวจนายนั้นเหลียวมองไปรอบ ๆ เขาไม่เห็นรถมอเตอร์ไซค์เลย นอกจากรถเมล์ปรับอากาศซึ่งกำลังแล่นผ่านด่านตรวจไปเท่านั้นเอง            ไหนล่ะครับคุณรถมอเตอร์ไซค์คันไหน?”
            หญิงสาวหันมองไปรอบ ๆ ถนน มอเตอร์ไซค์คันนั้นหายวับไปจากสายตาของหล่อนเสียแล้ว            เป็นไปได้ยังไงกัน เมื่อสักครู่นี้ยังเห็นแล่นข้ามสะพานบางเขนมา หรือว่ามันเกิดเปลี่ยนใจไม่กล้าตามมาหนีย้อนกลับไปทางเก่าแล้ว เพราะเห็นมีด่านตรวจตั้งอยู่ มันดีไปอย่าง….เพราะหล่อนจะได้ไม่ต้องคอยประสาทกินกับมันอีกต่อไป            ช่างเถอะค่ะฉันคงตาฝฝาดไปเอง ต้องขอโทษด้วยนะคะ
            หล่อนบอกอย่างสุภาพ แล้วขอตัวกลับไปที่รถ            เดี๋ยวก่อนครับคุณ…” ตำรวจนายนั้นเรียกไว้ทำให้หญิงสาวต้องหยุดชะงัก เขาเดินเข้ามาหาขมวดคิ้วถาม คณไม่สบายหรือเปล่า?”
            ท่าทางของเขาแสดงความห่วงใย คงเพราะหวังดีที่เห็นเป็นผู้หญิงผู้ขับรถมาคนเดียว แล้วหล่อนยังแสดงอาการแปลกๆ ให้เขาเห็น อันเกิดจากความหวาดกลัวมอเตอร์ไซค์ลึกลับคันนั้นนั่นเอง            อรอนงค์รีบสั่นหน้าปฏิเสธ            เปล่าค่ะ ฉันสบายดีเพียงแต่คิดมากไปเท่านั้นเอง
            “ขับรถระวังดีๆ หน่อยนะครับ            ตำรวจนายนั้นกล่าวเตือน ก่อนที่จะปล่อยให้หล่อนขับรถออกจากด่านตรวจไป            พ้นด่านมาเพียงเล็กน้อย เป็นสะพานข้ามคลองอรอนงค์บังคับรถให้ข้ามสะพานมา กวาดตามองไปรอบ ๆ อีกครั้ง แล้วถอนหายใจอย่างรู้สึกโล่งอก ที่ไม่เห็นมีมอเตอร์ไซค์บ้า ๆ คอยติดตามมาอีก            ขวามือเป็นหมู่บ้านชินเขต ส่วนทางซ้ายมือคือโรงหนังงามวงศ์วานรามา ตลาดพงษ์เพชรปรากฏอยู่ตรงหน้า ก่อนจะถึงสี่แยกข้ามคลองประปา            หล่อนเริ่มขับรถอย่างสบาย ๆไม่เร่งร้อน นับว่าวันนี้โชคของหล่อนยังดีที่มาเจอเอาด่านตรวจเข้า ป่านนี้เจ้ามอเตอร์ไซค์ลึกลับคันนั้นคงจะหนีเตลิดกลับไปแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้ว จะมีอะไรเกิดขึ้นกับหล่อน ยากที่จะคาดเดาได้            ต่อแต่นี้ไป หล่อนจะต้องคอยระมัดระวังตัวให้ดี เพราะมันอาจจะหาโอกาสคอยตามปองร้ายอีกเมื่อไหร่ ใครจะไปรู้            แต่พอเหลือบมองกระจกส่องหลังอีกครั้ง อรอนงค์ถึงกับใจหายวาบ            เจ้ามอเตอร์ไซค์จอมตื้อกำลังเลี้ยวออกมาจากหน้าโรงหนังงามวงศ์วานรามา            อะไรกันนี่ มันรอดด่านตรวจมาได้อย่างไรกัน หล่อนคิดด้วยความรู้สึกแปลกใจ ท่าทางมันคงไม่ยอมเลิกตามจองล้างจองผลาญอย่างแน่นอน            หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ทำให้หล่อนเกิดความกล้าบ้าบิ่นขึ้นมา            มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้นที่จะรอดพ้นจากการติดตามของมอเตอร์ไซค์ลึกลับคันนี้ คือต้องหาทางกำจัดมันเสีย            ย่านตลาดพงษ์เพชร รถราค่อนข้างจอแจ หล่อนขับรถอย่างใจเย็น เริ่มวางแผนการเอาไว้ในใจ            พอข้ามคลองประปามาได้ ผ่านห้างพันธุ์ทิพสรรพสินค้าไปเล็กน้อย ถนนจึงค่อยโล่งขึ้น แบบนี้ต้องวัดดวงกันหน่อยล่ะ            สองข้างทางเป็นคูน้ำขนานคู่กันไปกับขอบถนนพอมาถึงโรงงานโพลาริส หญิงสาวรีบหักพวงมาลัยเลี้ยวปราดเข้าไป แล้วจอดสงบนิ่งรออยู่ที่ทางเข้าหน้าโรงงาน            มาแล้ว….เจ้ามอเตอร์ไซค์ปีศาจ เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน หล่อนคิดแล้ววางมือบนคันโยกเกียร์ เตรียมพร้อมเอาไว้            อ๊อดชะลอความเร็วของรถมอเตอร์ไซค์ลง รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นหล่อนเลี้ยวรถเข้าไปจอดอยู่ที่หน้าโรงงาน เขาตั้งใจว่าจะขี่รถผ่านไปก่อน แล้วค่อยแอบย้อนกลับมาดูอีกที            ทำทีเป็นไม่สนใจ บิดคันเร่งให้มอเตอร์ไซค์พุ่งปราดมาตามถนน            ก่อนที่อ๊อดจะถึงทางแยกเข้าโรงงานโพลาริส อรอนงค์รีบตบเกียร์ถอยหลัง พารถถอยพรวดออกมาจอดขวางถนนเอาไว้ในทันที            อ๊อดตาหูเหลือก คาดไม่ถึงว่าจะโดนเล่นงานเข้าไม้นี้รีบหักแฮนด์มอเตอร์ไซค์หลบไปทางซ้าย พร้อมกลับรั้งสายเบรกอย่างเต็มมที่            แต่ความเร็วของรถทำให้เขาไม่อาจหยุดได้สนิทดังใจ มอเตอร์ไซค์คันโปรดของปื๊ดจึงพุ่งเลยออกนอกขอบถนน และหล่นตูมลงไปในคูน้ำข้างทางพร้อมกับร่างของอ๊อดที่ลอยละลิ่วตามลงไป            โชคดีที่น้ำในคูไม่ค่อยลึกมากนัก แต่มันทำให้ทั้งมอเตอร์ไซค์และตัวเด็กหนุ่มเลอะเทะเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำครำ จนดูดำปื้ดไปหมด            เขาตะเกียกตะกายเงยหน้าขึ้นมองบนถนน            อรอนงค์เปิดกระจกหน้าต่างรถชะโงกหน้าออกมาส่งยิ้มเหยียดๆ ให้เขาอย่างรู้สึกสะใจ ก่อนที่จะเข้าเกียร์พารถเก๋งคันงามมุ่งหน้าไปทางสี่แยกแคลาย                        **********            ในตอนบ่าย ต้นได้รับโทรศัพท์จากแตน นัดให้เขาไปพบกับหล่อนที่ห้องอาหารแห่งหนึ่งแถวชานเมืองเสียงหล่อนบอกว่า มีเรื่องสำคัญมากจะคุยด้วย ชายหนุ่มนึกรู้ได้ทันทีว่าหญิงคนรักจะพูดเรื่องอะไรเขารีบรับปากและไปพบกับหล่อนในทันที เพราะชายหนุ่มต้องการที่จะอธิบายทุกอย่างให้คนรักเข้าใจอยู่เหมือนกัน            ที่ห้องอาหารแห่งนั้น แตนกับตุ่มนั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว สีหน้าของสองสาวดูเคร่งเครียด ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มเลยสักนิด เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาหา ชายหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างตรงข้ามกับแตน            เป็นอะไรไปยัยตุ่ม อาหารไม่อร่อยเหรอไง?” เขาพูดกระเซ้าเพื่อให้บรรยากาศคลายซีเรียสลง            ยังจะมีหน้ามาทำพูดดีอีกพี่ต้นแตนค้อนขวับทำตาขวาง ตัวพี่ต้นนั่นแหละ ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน
            “อ้าว ! ผมไปทำอะไรให้ใครเดือดร้อนล่ะ?” ชายหนุ่มแกล้งตีหน้าเซ่อทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุณสั่งให้ผมมาหา ผมรีบเรียกแท็กซี่มาปุ๊บทันที รอนานนิดหน่อยแค่นี้ทำงอนไปได้ รถมันติดน่ะครับ            “อย่ามาแกล้งไก๋หน่อยเลย เลิกพูดเล่นเสียทีได้ไหมพี่ต้น?” เสียงแตนชักฉุน พี่ต้นรู้ดีว่าแตนกำลังพูดถึงอะไรอยู่ บอกมาดีกว่าว่าพี่ต้นไปรู้จักกับนางผีร้ายตัวนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”            “ไหน ผีร้ายตัวไหน?”            ต้นยังไม่ยอมเลิกเล่นลิ้น ยัยตุ่มเลยเกิดนึกหมั่นไส้ขึ้นมา เอากำปั้นทุบลงกลางหลังของชายหนุ่มดังบึ่ก            นี่แน่ะ….ทำหน้าทะเล้นดีนัก นังผีตัวที่อยู่ในห้องของพี่ต้นยังไงล่ะ!”
            เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับหลังแอ่น มึนไปเหมือนกันกำปั้นของตุ่มที่หนักไม่ใช่เล่น เขามองหน้าคนทุบแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง            คุณวนาเอไม่ใช่ผีหรอกนะยัยตุ่ม
            “ถ้าไม่ใช่ผีแล้วมันเป็นใคร อ่อ หรือว่าอีนังนั่นมันเป็นเมียของพี่ต้นอย่างงั้นใช่มั้ย?”            แตนแหวใส่เขาเสียงลั่น ชายหนุ่มทำตาเหลือกรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ            เปล่าๆ ไม่ใช่อย่างนั้น ฟังผมอธิบายให้จบก่อนซิครับคุณแตน
            หญิงสาวจ้องหน้าชายคนรักเขม็ง เหมือนกำลังจะจับผิดเขาอยู่            มีอะไรจะแก้ตัวว่ามา?”
            “เธอไม่ใช่คนแต่เป็นนางไม้ นางไม้ที่สิงอยู่ในเตียงนอน            “นางไม้?”            สองสาวอุทานออกมาเกือบจะพร้อมกัน แทบไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของต้น ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ยืนยันอีกครั้ง            ถูกแล้วคุณวนาเธอเป็นนางไม้จริงๆ เธออยู่ในห้องนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้าที่ผมจะย้ายเข้าไปอยู่เสียอีก แตเธอไม่เคยทำร้ายใคร นอกจากแกล้งหลอกคนที่มาเช่า เพราะไม่อยากให้มีใครมายุ่งกับห้องของเธอเท่านั้นเอง”
            เชอะ ! อย่ามาหลอกกันดีกว่าพี่ต้น แตนไม่ใช่เด็กแล้วนะ!”
            หญิงสาวเชิดหน้า ไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าคำพูดของชายคนรักจะเป็นความจริง หล่อนคิดว่านางไม้นั้นไม่มีตัวตน เป็นเพียงนิทานสำหรับเด็กเท่านั้นเอง        

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ13 เมษายน 2561 เวลา 09:54

    สวัสดีฉัน aM clinton nancy หลังจากที่ได้มีความสัมพันธ์กับแอนเดอร์สันมานานหลายปีแล้วเขาเลิกกับฉันฉันทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาได้ แต่ทั้งหมดก็ไร้ผลฉันต้องการให้เขากลับมามากเพราะความรักที่ฉันมีต่อเขา, ฉันขอร้องเขาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างฉันทำสัญญา แต่เขาปฏิเสธ ฉันอธิบายปัญหาของฉันกับเพื่อนของฉันและเธอบอกว่าฉันควรจะติดต่อล้อสะกดที่สามารถช่วยฉันโยนคาถาเพื่อนำเขากลับมา แต่ฉันเป็นประเภทที่ไม่เคยเชื่อในการสะกดฉันไม่มีทางเลือกกว่าที่จะลองฉัน ส่งคาถลลวงและเขาบอกผมว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ที่ทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนสามวันที่อดีตของฉันจะกลับมาหาฉันก่อนสามวันเขาได้ให้การสะกดและในวันที่สองก็แปลกใจคือประมาณ 4 โมงเย็น อดีตของฉันเรียกฉันว่าฉันประหลาดใจมากฉันตอบสายและสิ่งที่เขาพูดก็คือเขาเสียใจมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการให้ฉันกลับไปเขาว่าเขารักฉันมาก ฉันมีความสุขมาก ๆ และไปหาเขานั่นคือสิ่งที่เราเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันได้สัญญาว่าใครที่ฉันรู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันก็จะช่วยคนดังกล่าวโดยการแนะนำให้เขาเป็นครูผู้ชำเถียงในการสะกดเฉพาะที่แท้จริงและทรงพลังที่ช่วยฉันด้วยปัญหาของตัวเอง อีเมล์: drogunduspellcaster@gmail.com คุณสามารถส่งอีเมลถึงเขาได้หากคุณต้องการความช่วยเหลือในความสัมพันธ์หรือกรณีอื่น ๆ

    1) รักคาถา
    2) Lost Love Spells
    3) การหย่าร้าง
    4) เวทมนตร์สมรส
    5) มัดสะกด
    6) คาถา Breakup
    7) ขับไล่คนที่ผ่านมา
    8. ) คุณต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งในการสะกดของสำนักงาน / สลากกินแบ่งของคุณ
    9) ต้องการที่จะตอบสนองความรักของคุณ
    ติดต่อคนที่ยิ่งใหญ่นี้หากคุณมีปัญหาใด ๆ สำหรับโซลูชันที่ยั่งยืน
    ผ่าน DR ODOGBO34@GMAIL.COM

    ตอบลบ